Sacred Valley in Northwest China, LIJIANG
ตอนนี้ประเทศจีน FREE VISA แล้ว จะพลาดได้ไง!
เป็นประเทศที่อยากแนะนำมากๆ ค่ะ เพราะเดินทางไม่ยาก ไม่ไกลจากประเทศไทย ของกินอร่อยถูกปาก ธรรมชาติสวย หลายๆ เมืองก็คือเจริญมาก
ล่าสุดเฟิร์นไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติย่าติงมา แต่การไปถึงก็ไม่ได้ง่ายนัก เราต้องค่อยๆ ไต่ระดับความสูงไป เลยจะเริ่มจากเมือง ‘ลี่เจียง’ กันก่อน
แต่ถ้าจะไปทั้งรูตอาจจะต้องใช้เวลาเยอะหน่อย ถ้าใครมีเวลาน้อย จริงๆ แนะนำว่า ‘ลี่เจียง’ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ใช้เวลาแค่ 2-3 วัน ก็เที่ยวครบแล้ว แถมเมืองนี้ยังมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ด้วยความที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ถึงแม้จะอยู่ในฤดูร้อน ก็จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 20 °C เท่านั้น ขนาดเฟิร์นไปในช่วงเดือนตุลาคมที่ตรงกับฤดูใบไม้ร่วง ยังเจอหิมะ อากาศหนาวเลยค่ะ
ใครหาที่เที่ยวใกล้ไทย ไปไม่ยาก ใช้วันลาน้อย ก็ปักหมุดทริปนี้ไว้แล้วตามมาเลย :)
Day 1 - From Bangkok To Lijiang
สำหรับการเดินทาง ตอนนี้ยังไม่มีไฟลต์บินตรงจากไทยไปลงลี่เจียงนะคะ จะต้องลงเมืองใหญ่เช่นเมืองคุนหมิงหรือกวางโจว แล้วต่อเครื่องในประเทศอีกที
และเมื่อมาถึงเมืองลี่เจียงแล้ว วันนี้อยากให้ทุกคนพักผ่อนกันสบายๆ ก่อน เพราะลี่เจียงสูงราวๆ 2,400 เมตร จากระดับน้ำทะเล อาจทำให้เกิด Altitude Sickness ได้ เลยอยากให้ทุกคนพักผ่อนและดื่มน้ำเยอะๆ นะคะ
สำหรับที่พักแนะนำให้นอนแถวๆ ทางเข้าเมืองเก่าค่ะ เพราะในเมืองเก่าพื้นจะเป็นหินขรุขระจะลากกระเป๋าลำบาก เฟิร์นพักที่ Lijiang Gemmer Hotel ค่ะ ดีมากๆ โรงแรมอยู่ใกล้ทางเข้าเมืองเลย เดินทางสะดวก มีรถรับ-ส่งสนามบินในราคาถูก พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ด้วยนะคะ
Day 2 - Jade Dragon Snow Mountain
Jade Dragon Snow Mountain จะอยู่ห่างจากตัวเมืองหน่อย แต่มาที่เดียว เราจะได้ชม 3 อย่างเลย ก็คือ ขึ้นยอดภูเขาหิมะมังกรหยก, หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (ไป๋สุ่ยเหอ), การแสดงโชว์ของจางอวี้โหมว และการเที่ยวทั้งหมดนี้ก็จะใช้เวลาทั้งวัน
ถ้าไปเองก็สามารถซื้อบัตรเข้าสถานที่ต่างๆ ได้ที่ Ticket Office แต่ถ้าไปกับทัวร์ ทัวร์จะจัดการให้ พอได้บัตรเข้าอุทยานแล้วต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะต้องใช้สแกนตลอด
การเดินทางแต่ละจุดในอุทยานจะใช้รถมินิบัสเล็กๆ Hop-on / Hop-off แต่ต้องซื้อเพิ่ม ถ้าไม่ซื้อเพิ่มก็สามารถเดินเอาได้
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (ไป๋สุ่ยเหอ) - Blue Moon Valley
เป็นธารน้ำตกที่สลับเรียงรายเป็นชั้นๆ โดยจะแบ่งออกเป็นหลายโซน และความพิเศษของเขาก็คือ จะมีโซนที่น้ำเป็นสีฟ้าและใสมากๆ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
ซึ่งน้ำที่นี่จะไหลมาจากบนเขา Jade Dragon Snow Mountain น้ำจะเย็นมากตลอดปี เลยเป็นสถานที่พิสูจน์รักแท้ โดยฝ่ายชายจะยืนเท้าเปล่าในทะเลสาบเป็นเวลานานเพื่อแสดงให้ฝ่ายหญิงเห็นถึงความรักที่มีให้
เดินไปเดินมาจะเจอน้องจามรี (Yak) ที่หน้าตาเหมือนวัวขนยาวๆ เขายาวๆ ให้เราถ่ายรูปเล่นได้ น้องน่ารักมาก และ... อร่อยมากด้วย
Impression Lijiang Show
โชว์ Open Air ขนาดใหญ่ที่สุดในจีน กำกับโดยคุณจางอี้โหมว วันที่เฟิร์นไปฝนตก แต่ The Show Must Go On!!
โดยจะเป็นการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมเก่าตามคัมภีร์ตงปา (Dongba) ของชาวน่าซี (Naxi) การแสดงก็จะเกี่ยวกับเส้นทางการขนส่งใบชาโบราณ (Ancient Tea Horse Road) โดยมีลี่เจียงเป็นเส้นทางที่สำคัญ
สิ่งที่ชอบมากๆ คือฉากเขาอลังการมาก!!! ไม่ใช่แค่ฉากผาหินสีแดงที่สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ฉากหลังที่ไม่สามารถมีมนุษย์คนไหนเนรมิตขึ้นมาได้ เพราะเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่จากธรรมชาติ ..... ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นโชว์ที่ดีมากๆ ไม่อยากให้ทุกคนพลาดนะคะ
Jade Dragon Snow Mountain
ที่นี่ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่คนเคารพบูชากัน โดยเฉพาะชาวน่าซี และในสมัยก่อนที่นี่ก็ยังเป็นที่สังเวยตนเพื่อพิสูจน์รักแท้ และยังเป็นที่หลบหนีการถูกบังคับคลุมถุงชนของคนสมัยก่อนอีกด้วย
น่าเสียดายวันที่เฟิร์นขึ้นมาหิมะตกหนักมากๆ เฟิร์นเลยมองไม่เห็นอะไรเลย ทุกอย่างขาวโพลน.... แต่ไม่เป็นไร ภูเขาหิมะมังกรหยกไม่ได้หนีเราไปไหน ไว้เจอกันใหม่ได้ :)
ข้อควรระวัง
- การขึ้นบนภูเขาอาจจะยิ่งทำให้มีอาการ Altitude sickness ได้ ควรซื้อกระป๋อง Oxygen ติดตัวไว้ หมั่นจิบน้ำบ่อยๆ และอย่าฝืนร่างกายตัวเองจนเหนื่อยเด็ดขาด
DAY 3 - Lijiang Old Town
วันนี้เราจะเดินเล่นที่เมืองเก่าของลี่เจียงกัน ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนกลายเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย เขาอยู่มานานมากตั้งแต่ราชวงศ์ซ่ง พอเดินเข้ามาคือว้าวเลย ได้บรรยากาศความเป็นเมืองเก่า แต่สะอาดและเป็นระเบียบมากๆ ค่ะ แต่ว่าเมืองเก่าเขากว้างใหญ่ และมีซอยเล็กซอยน้อยเยอะหน่อย แนะนำว่าให้ปล่อยใจจอยๆ เดินเล่นไปเลย สวยทุกดีเทล เดินเพลินได้ทั้งวัน
ถ้าเดินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ (ซึ่งเฟิร์นก็เดินมั่วๆ แค่เดินให้สูงขึ้น 5555) ก็จะเจอกับ ‘ทะเลหลังคาหว่านกู่โหลว’
Black Dragon Pool
เดินๆ ในเมืองเก่าลี่เจียงมาสักพักใหญ่ๆ ก็จะเจอจุดนี้ จะเป็นวัดที่มีศาลากลางน้ำ กับสระน้ำขนาดใหญ่ และวิวภูเขาสุดอลังการเป็นฉากหลัง สวยมากๆ เลยค่ะ
เฟิร์นไปลี่เจียงช่วงเดือนตุลาคม เพราะอยากดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่เหมือนจะมาช้าไปหน่อย ใบไม้เริ่มผลัดใบเตรียมเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว ถ้าใครอยากมาลี่เจียง แนะนำให้ลองเช็กฤดูดีๆ ก่อนมานะ
ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม – พฤษภาคม
ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน – พฤศจิกายน
ฤดูหนาว : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
จริงๆ ตามแพลนของเฟิร์น จากเมืองลี่เจียงเฟิร์นไปที่เมืองแชงกรีล่าต่อ เพื่อไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปจุดหมายปลายทางก็คือ ‘อุทยานแห่งชาติย่าติง’ แต่วันนี้เฟิร์นขอเล่าถึงเมืองลี่เจียงก่อน เอาไว้ถ้ามีโอกาส เอาไว้ถ้ามีโอกาส เฟิร์นจะมาเล่าถึงเมืองอื่นๆ นะคะ :)
เรื่องและภาพ : Bivoyage