Privacy Policy
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์[1] (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จึงจัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบายฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)
-
บททั่วไป
นโยบายฯ ฉบับนี้ อธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ บริหารจัดการข้อมูลที่สามารถหรืออาจระบุตัวตนของท่าน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) กล่าวคือ การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านสามารถรับทราบรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้อย่างละเอียด
-
บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางไหน
บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้
-
กรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัทฯโดยตรง
- เมื่อท่านลงทะเบียนสมัครใช้งานกับบริษัทฯ
- เมื่อมีการนำเสนอบริการต่าง ๆ ที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของท่าน
- เมื่อท่านกรอกข้อมูลต่างๆ ในแบบฟอร์ม ไม่ว่าในรูปแบบเอกสาร หรือผ่านเว็บไซต์ หรือทางช่องทางใดๆ ในโครงการต่างๆ กับบริษัทฯ
- เมื่อท่านส่งมอบเอกสาร รูปภาพ หรือวีดีโอต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ
- เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ
- เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น คำแนะนำ หรือคำติชมแก่บริษัทฯ
-
กรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก
- บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งสาธารณะ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวด้วยตนเอง หรือได้ให้ความยินยอมแก่บุคคลใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของท่าน
- สำหรับกรณีของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครโครงการมอบทุนต่างๆ กับบริษัทฯ บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากใบสมัครขอรับทุน และ/หรือเอกสารอื่นใดของบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน หรือบุคคลอ้างอิงของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น
-
กรณีที่บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติ
- เมื่อท่านเข้าชม และ/หรือใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริการออนไลน์ต่างๆ ที่มีการใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับรายละเอียดการใช้งานของท่าน โปรดดูนโยบายการใช้คุกกี้
- เมื่อท่านติดต่อบริษัทฯ ณ สถานที่ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
-
กรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัทฯโดยตรง
-
บริษัทฯเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง
ในการดำเนินงานของบริษัทฯและภายใต้นโยบายฯ นี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯเก็บรวบรวมหรือจะเก็บรวบรวม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ ประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ สัญชาติ ศาสนา อาชีพ ตำแหน่งงาน รูปถ่าย หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ และสถานที่ทำงาน เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน หมายเลขโทรสารที่บ้าน หมายเลขโทรสารที่ทำงาน อีเมล บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่ทำงาน สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ เป็นต้น
- ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรข้าราชการ สำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท (กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล) ใบรับรองแพทย์ ใบแสดงผลการเรียน เป็นต้น
- ข้อมูลด้านเทคนิค เช่นข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน อาทิ ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์แอปพลิเคชัน และระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ประเภทของเบราว์เซอร์ และพฤติกรรมการใช้งาน เป็นต้น
-
บริษัทฯประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้าง
- บริษัทฯประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
- เพื่อนำเสนอบริการที่เหมาะสมที่สุดแก่ท่านในช่วงเวลาที่ท่านเข้ามาแวะเยี่ยมชม และใช้บริการเว็บไซต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
- เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการของเรา ตามข้อมูลและผลสำรวจทางการตลาด
- แนะนำบริการที่เราเห็นว่าท่านอาจมีความสนใจ
- เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน รวมถึงการส่งข่าวสารและสื่อประชาสัมพันธ์ใดๆ ที่ท่านสนใจหรืออาจเป็นประโยชน์กับท่าน รวมถึงการส่งข้อมูลเพิ่มตามที่ท่านร้องขอ การตอบข้อเสนอแนะของท่าน และแนะนำบริการที่บริษัทฯเห็นว่าท่านอาจมีความสนใจ
- เพื่อพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
- เพื่อดำเนินการตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบ
-
ทั้งนี้ บริษัทฯจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ภายใต้ฐานทางกฎหมายใดๆ ดังต่อไปนี้
- เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- เป็นความจำเป็นของบริษัทฯในการปฏิบัติตามกฎหมาย
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากบริษัทฯ
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน หรือ
- ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อไม่สามารถอาศัยข้อยกเว้นหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุข้างต้น
- เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯจะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯไม่สามารถให้บริการแก่ท่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
- ในกรณีที่บริษัทฯจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดซึ่งระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯจะจัดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ท่านควรศึกษานโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกับนโยบายฯ ฉบับนี้
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด และฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯได้ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 8 ของนโยบายฯ ฉบับนี้
- บริษัทฯประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
- บริษัทฯเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับใครบ้าง
- บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภานในบริษัทฯเท่าที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ
- พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น บริการรับส่งไปรษณีย์-พัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ
- หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล เป็นต้น
- บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากบริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯจะดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
- ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
- บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ และโดยคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
- ระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี)
- อายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ
- แนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
- หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บในระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของนโยบายฯ ฉบับนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ธุรกรรมหรือนิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯสิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ
-
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ และโดยคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
-
สิทธิต่างๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ทั้งนี้ ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สิทธิแก่ท่าน 7.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ทั้งนี้ ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สิทธิแก่ท่าน 7.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สิทธิแก่ท่าน 7.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 7.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯอาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯได้ 7.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่านดังที่ระบุข้างต้น ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 8 ของนโยบายฯ ฉบับนี้ โดยบริษัทฯจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน
-
วิธีการติดต่อบริษัทฯ
ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายฯ ฉบับนี้ การบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แจ้งข้อร้องเรียน หรือใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 ข้างต้น ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 8 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ท่านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ของบริษัทฯ ได้ที่
เลขที่ 8 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@kingpower.com -
การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้
บริษัทฯอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ที่สำคัญใดๆ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นระยะๆ
ให้นโยบายฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ 2564
ในกรณีที่บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯได้แจ้งไว้แก่ท่าน อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทฯเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯเพื่อขอยกเลิกความยินยอม ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของนโยบายฯ ฉบับนี้
[1] บริษัทในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ หมายถึง [นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
- บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ มาเก็ตติ้ง แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ คลิก จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ โฮเทล แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ เอวิเอชั่น จำกัด
- บริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด]