Yuanyang : Hani Rice Terraces

Travel Story
29 เม.ย. 67
265
0

เชื่อว่าหลายคนคงพอนึกภาพ “นาขั้นบันได” กันได้ไม่ยาก อย่างนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ นั่นก็เป็นแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้ใคร แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งบนโลกที่ทั้งยิ่งใหญ่และน่าสนใจจนอยากแนะนำให้รู้จัก หนึ่งในนั้นก็คือ “นาขั้นบันไดฮาหนีแห่งหยวนหยาง” นั่นเอง
 
 
นาขั้นบันไดฮาหนี ตั้งอยู่ที่เมืองหยวนหยาง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ผืนนาขั้นบันไดที่ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาเต็มทั่วบริเวณกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่แนะนำในการมาที่นี่คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะช่วงเวลานี้จะมีการทดน้ำเข้านา ทำให้เกิดภาพสะท้อนของท้องฟ้าบนผิวน้ำ นั่นหมายความว่าบนผิวน้ำก็จะปรากฏสีสันต่างๆ เปลี่ยนไปตามแสงสีบนท้องฟ้า แถมถ้าโชคดีมากๆ ก็จะได้หมอกในช่วงเวลาเช้ามาเพิ่มความสวยงามและน่าสนใจอีกด้วย อีกทั้งอุณภูมิในช่วงดังกล่าวยังถือว่ามีความหนาวเย็นอยู่โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น
 
 
การเดินทางจากประเทศไทยไปยังนาขั้นบันไดฮาหนี ส่วนมากก็จะบินไปลงที่เมืองคุณหมิงก่อน จากนั้นถึงจะเดินทางต่อกันด้วยรถ ระยะทางค่อนข้างไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ถึงบริเวณที่เรียกว่า Honghe Hani Rice Terraces (https://maps.app.goo.gl/51fHhYyG6ZPN4qZV7) ซึ่งในเมืองนี้ก็มีโรงแรมมาตรฐานที่สามารถอยู่ได้อย่างสะดวกสบายให้เลือกอยู่พอสมควร ส่วนเรื่องอาหารการกิน หากใครชอบความเผ็ดร้อนของหม่าล่าแล้วล่ะก็ฟินแน่นอน เพราะอาหารที่นี่จะมีส่วนประกอบของหม่าล่าอยู่ในแทบทุกเมนู ใครกลัวเบื่ออาหารจีนแนวนี้ ก็อาจจะต้องหาพกของแห้งต่างๆ ไปจากประเทศไทยก็พอจะช่วยได้อยู่มาก
 
   
 
ที่นาขั้นบันไดแห่งนี้ มีจุดชมวิวที่ถูกจัดทำเป็นอย่างดีอยู่หลายจุด แต่ละจุดก็จะมีช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ควรจะไปชมแตกต่างกันไป ซึ่งมีจุดหลักๆ ดังนี้
1. ตัวอี้ซุ่ (Duoyishu 多依树) เหมาะกับการไปในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น
2. บาต๋า (Bada 坝达) เหมาะกับการไปในช่วงพระอาทิตย์ตก
3. เหลาหูจุ้ย (Laohuzui 老虎嘴) เหมาะกับการไปในช่วงพระอาทิตย์ตก
 
 
ถ้าถามว่าควรมานอนพักอยู่เพื่อเยี่ยมชมนาขั้นบันไดแห่งนี้กันสักกี่วันถึงจะเหมาะสม แนะนำว่าให้มานอนสัก 2 คืน ก็น่าจะเพียงพอ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเบื่อวิวนาขั้นบันไดกันเกินไป แต่ถ้าชอบถ่ายภาพมากๆ อยากจะได้ภาพเด็ดๆ ไปประดับใน Portfolio แล้วล่ะก็ เพิ่มเข้าไปเป็น 3 คืน ก็จะเพิ่มโอกาสการได้ภาพสวยๆ มากขึ้น เพราะสภาพอากาศอาจจะไม่ได้ใจดีกับเราในทุกๆ วัน
 
 
จุดชมวิวตัวอี้ซุ่ในช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 
 
 
การมาเที่ยวที่นี่ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ ควรต้องพกเลนส์ที่ซูมได้ไกลๆ มาด้วย ก็จะได้ภาพที่น่าสนใจมากขึ้น
 
 
ในช่วงกลางวัน สภาพแสงอาจจะไม่ได้มีความสวยงามเท่ากับช่วงเช้าหรือเย็น แต่ว่าถ้าวันไหนพอจะแสงอาทิตย์ที่ลอดลงช่องระหว่างเมฆ ก็จะเกิดแสงในลักษณะของ spotlight ซึ่งก็จะทำให้เกิดความสวยงามได้เช่นกัน
 
 
จุดชมวิวบาต๋า ที่มีพระอาทิตย์ตกอยู่ตรงด้านหน้าพอดิบพอดี
 
 
แสงสะท้อนบนผืนน้ำ ทำให้เกิดความต่างของแสงเรียกว่า ธรรมชาติกับชาวบ้านช่วยกันรังสรรค์ความสวยงามได้อย่างลงตัว
 
เรื่อง : Notjustnut ภาพ : Notjustnut