EXPLORING TUSCANY “ทัสคานี” ที่มากกว่าฟลอเรนซ์
แคว้นทัสคานี ตั้งอยู่ในส่วนหน้าแข้งของรองเท้าบูตประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงขึ้นมาจากหนังสือและภาพยนตร์เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ แม้ฟลอเรนซ์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นจะโด่งดังมานานแล้วก็ตาม
ทัสคานีมีเมืองที่สวยงามอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยือนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
เซียนา (Siena) : เมืองที่มีตำนานก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคโรมัน และรุ่งเรืองขึ้นมาในยุคกลาง ก่อนจะพ่ายแพ้ต้องเข้าเป็นดินแดนใต้การปกครองของฟลอเรนซ์ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันเซียนาเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นทัสคานี
ซันจิมิญญาโน (San Gimignano) : เมืองเล็กๆ บนเนินเขา อยู่ห่างจากเซียนาราว 50 กิโลเมตร เป็นเมืองที่คงสภาพเมืองโบราณสมัยยุคกลางได้อย่างครบถ้วน มีหอคอยมากมายเป็นจุดเด่น และมีกำแพงเมืองล้อมรอบ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1990
ยังมีหมู่บ้านเล็กๆ บนเนินเขา ซึ่งมีปราสาทเป็นศูนย์กลางอีกหลายแห่ง อย่างหมู่บ้านการ์กอนซา (Gargonza) และที่พลาดไม่ได้ก็คือ เคียนติ (Chianti) ซึ่งเป็นเขตปลูกองุ่นและผลิตไวน์แดงอันเลื่องชื่อของอิตาลี
ทัสคานีตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโรมกับมิลาน จึงสามารถเริ่มและจบการเดินทางได้คนละเมืองโดยไม่ต้องย้อนกลับมาที่เดิม
เปียซซา เดล คัมโป (Piazza del Campo) จัตุรัสกลางเมืองเก่าเซียนา รูปทรงเปลือกหอยแปลกตา ล้อมรอบด้วยอาคารจากยุคกลาง มีจุดเด่นอยู่ที่หอระฆังซึ่งอยู่ติดกับศาลาว่าการเมือง มีความสูง 102 เมตร เท่ากับหอระฆังของมหาวิหารแห่งเซียนา นัยว่าเพื่อแสดงถึงความเท่าเทียมกันของอำนาจแห่งศาสนจักรและอำนาจของคณะผู้บริหารเมือง
หอระฆังสูง 102 เมตร โดดเด่นอยู่กลางเปียซซา เดล คัมโป
อาคารโดยรอบจัตุรัสคัมโปเคยเป็นที่พำนักของชนชั้นปกครองและเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นอาคารก่ออิฐ หลังคากำหนดให้สร้างเรียบๆ ห้ามสร้างหอคอยแข่งกัน เพื่อความงดงามเป็นระเบียบของเมือง
เทศกาลปาลิโย (Palio) หรือการแข่งม้าแบบยุคกลาง ที่จัดขึ้นตรงจัตุรัสคัมโป ปีละ 2 ครั้ง ในวันที่ 2 กรกฎาคม และ 16 สิงหาคม ซึ่งม้าของแต่ละหมู่บ้านจะมาวิ่งแข่งกัน เป็นอีเวนต์ใหญ่ที่มีการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ ด้วยเป็นงานที่มีสีสันและสนุกสนานมาก
ของที่ระลึกมีภาพจำลองเทศกาลปาลิโย (Palio)
ธงของแต่ละหมู่บ้านในเขตเมืองเซียนา เป็นของสำคัญในงานปาลิโย เซียนาแบ่งเขตที่อยู่อาศัยเป็น 17 หมู่บ้าน แต่จะได้สิทธิ์ส่งม้าลงแข่งเพียงครั้งละ 10 หมู่บ้าน จึงต้องมีการจับฉลากก่อนวันแข่งขัน เป็นอีกอีเวนต์ที่ชาวเมืองรอลุ้นไม่แพ้การแข่งวันจริง
มหาวิหารแห่งเซียนา สวยงามวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ด้วยหินอ่อนสีขาวสลับดำทั้งภายนอกและภายใน
จิตรกรรมฝาผนังและการตกแต่งภายในมหาวิหารแห่งเซียนา
ภายในมหาวิหารแห่งเซียนาตกแต่งด้วยภาพวาดบนฝาผนัง และปูพื้นด้วยหินอ่อนทำเป็นลวดลายงดงาม
ภายในมหาวิหารแห่งเซียนาตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวสลับดำอย่างงดงาม
Photo Credits: www.visittuscany.com
เมื่อถึงยามค่ำ ความคึกคักของเซียนาจะอยู่ที่จัตุรัสคัมโป ซึ่งผู้คนจะมาดินเนอร์ตามร้านอาหารต่างๆ หรือแค่อาจมานั่งเล่นชมบรรยากาศกลางลานกว้าง
ซันจิมิญญาโน ได้ชื่อว่าเมืองหอคอย เพราะมีหอคอยถึง 14 หลัง เป็นเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 จึงมีอาคารสถาปัตยกรรมหลายยุคปะปนกัน
เที่ยวเมืองหอคอยที่ซันจิมิญญาโน
ในช่วงยุคกลาง หอคอยคือสัญลักษณ์แสดงความร่ำรวยและอำนาจ จึงมีการสร้างหอคอยแข่งกัน
นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนซันจิมิญญาโนกันมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน
ร้านไอศกรีมดูจะเป็นร้านที่ขายดีที่สุดในซันจิมิญญาโน มีคนเข้าแถวยาวไม่ขาดสายทีเดียว
เวลาท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ ในทัสคานี อาจได้เห็น “พินอคคิโอ (Pinocchio)” กันบ่อยๆ ในร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากเชื่อกันว่าเรื่องของพินอคคิโอ ตุ๊กตาไม้มีชีวิตที่จมูกจะยาวขึ้นทุกครั้งที่เขาโกหก ถือกำเนิดที่เมืองโคลลอดิ (Collodi) ในทัสคานีนี่เอง จึงกลายเป็นเหมือนแมสคอตของทัสคานีไป
และถ้าหิว หมูย่าง หมูกรอบ แฮม ฯลฯ ของทัสคานี ก็มีชื่ออยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
หมู่บ้านการ์กอนซา (Gargonza) ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล Monte San Savino ทัสคานีมีหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้มากมาย ซึ่งมักมีลักษณะเดียวกัน คือมีปราสาทเล็กๆ และมีหอคอยอยู่บนเนิน ล้อมรอบด้วยบ้านอยู่อาศัยและมักล้อมด้วยกำแพงอีกที หมู่บ้านแบบนี้ในปัจจุบันมักทำเป็นโรงแรมที่พักหรือเปิดบ้านให้เช่ายาวๆ ในช่วงฤดูร้อน
หมู่บ้านการ์กอนซา (Gargonza) ในเขตเทศบาล Monte San Savino
ภาพมุมสูงของหมู่บ้านการ์กอนซา มองเห็นปราสาทการ์กอนซาอย่างชัดเจน
ภูมิทัศน์อันเป็นภาพจำของทัสคานี คือไร่องุ่นบนเนินสลับสูงต่ำและอาคารก่อด้วยอิฐหรือหินกลางไร่ ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่วเขตเคียนติเช่นกัน
เคียนติเป็นเขตที่ผลิตไวน์แดงอันขึ้นชื่อของทัสคานีตอนกลาง และเมื่อมาถึงถิ่นแล้ว จะสามารถเข้าชมไร่องุ่นและผู้ผลิตไวน์ได้ มีให้บริการอยู่หลายแห่งตลอดทาง อาจแค่แวะชิมไวน์ แวะรับประทานอาหาร หรืออาจมีที่ให้พักค้างคืนในบรรยากาศของทัสคานีที่น่าหลงใหล
ตลอดเส้นทางที่เคียนติ มีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายแห่ง ให้ได้แวะชิมไวน์ รับประทานอาหาร หรือบางที่ก็มีที่ให้พักค้างคืนท่ามกลางบรรยากาศของทัสคานี
เรื่องและภาพ : นิศารัตน์