การเดินทางที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ณ มิลาน
หากจะพูดถึงนิสัยของคนยุโรปที่มีความคล้ายคลึงกับคนไทยมากที่สุด ทุกคนคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นนิสัยของคนอิตาเลียน เพราะธรรมชาติของผู้คนที่เป็นมิตร ชอบปาร์ตี้ และรักการสังสรรค์ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 เริ่มดีขึ้น ประเทศอิตาลียกเลิกเคอร์ฟิวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2564 และไม่เคยจำกัดวัฒนธรรมของการดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะโอกาสให้ดื่ม มันมีอยู่เสมอน่ะสิ และในตอนนี้ทุกคนได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 80% ของจำนวนคนทั้งประเทศ ทุกอย่างจึงเริ่มกลับมาเป็นปกติ ผู้คนออกมาใช้ชีวิตหลังเลิกงาน ห้าง โรงหนังและแกลเลอรี่ เปิดให้ใช้บริการได้ เพียงแต่จำกัดจำนวนคน หรือบางที่ก็รับเฉพาะคนที่จองไว้ ทุกคนไม่จำเป็นต้องใส่แมสก์ ยกเว้นเมื่ออยู่ภายในอาคารหรือพื้นที่ปิด ร้านอาหาร คลับ ผับ บาร์หรือแม้แต่เทค ก็เปิดให้เข้าได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม และทุก ๆ ที่จำเป็นต้องแสดงเฮลท์พาสหรือคนอิตาลีเรียกว่า กรีนพาส หรือพาสปอร์ตวัคซีนที่มีข้อกำหนดว่าต้องมีวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ซึ่งพาสนี้ก็จะอยู่ในมือของคนที่อายุเกิน 12 ปีแล้วเท่านั้น
คนอิตาเลี่ยนมีวัฒนธรรมสมดุลชีวิตการทำงาน (work life balance) ที่ดีมาก หลังเลิกงานก่อนกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้าน พวกเขามักนัดกันออกมาสังสรรค์เพื่อพบปะพูดคุย โดยมีชื่อเรียกสำหรับกิจกรรมนี้ว่า Aperitivo (อะเพริทิโว่) อย่างที่มิลานสถานที่ฮอตฮิตก็จะเป็นที่ Navigli (นาวิกลี) เป็นแหล่งแฮงเอ้าท์ชื่อดังที่เราอาจจะคุ้นเคยภาพของตึกที่มีสีสันสวยงามสองฝั่ง สะท้อนบนผิวน้ำที่อยู่ตรงกลาง มีสะพานเล็ก ๆ สำหรับข้ามไปมาของสองฝั่ง โดยร้านอาหารแต่ละร้านก็จะมีกันสาดและร่มหลากสีสันอยู่หน้าตึก ซึ่งอาหารส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์ เช่น แฮม ซาลาเม่ มันฝรั่งทอดกรอบ ผลไม้ ชีสที่ตัดเป็นชิ้น ๆ โดยร้านอาหารมักทำโปรโมชันจ่ายแค่ค่าเครื่องดื่มแต่อาหารตักฟรีได้ไม่อั้น
เมื่อพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน พวกเขาก็จะหุบร่ม เพื่อให้คนที่นั่งสังสรรค์อยู่ได้สัมผัสกับอากาศเย็น ๆ และดื่มด่ำกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่มีสีเหมือนกับเครื่องดื่มอะเพโรล สปริตซ์ (Apero Spritz) ค็อกเทลอิตาเลี่ยนคลาสสิกหรือคนอิตาเลี่ยนมักเรียกมันว่าเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย มีส่วนผสมคือ บิทเทอร์ ซึ่งเป็นเหล้ายี่ห้อ Apero l(อะเพลโรล) หรือ Campari (คัมพาริ), สปาร์กกลิ้ง ไวน์ (sparkling wine) ยี่ห้อ Prosecco(โปรเซกโก), โซดา และชิ้นส่วนของส้ม ใส่อยู่ในแก้วแชมเปญทรงสูงพร้อมหลอดกระดาษหลากสี คนอิตาเลี่ยนมักจะเลือกนั่งข้างนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ถูกจำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะและเป็นพื้นที่ติดกับถนนที่ผู้คนเดินสวนไปมา โดยไม่มีใครสวมใส่แมสก์ แต่มีการเว้นระยะห่างอย่างเห็นได้ชัด
หรือในบางวัน คนอิตาเลี่ยนก็จะเลือกไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะที่มี WIFI ฟรีกับครอบครัว ปูเสื่อพร้อมตะกร้าปิกนิกบนทุ่งหญ้าเขียวขจี มองผู้คนเดินและปั่นจักรยานในพื้นที่สำหรับกิจกรรมของตน ส่วนคอนเสิร์ตในอิตาลีก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ตามระเบียงตึกและร้องเพลงโต้ตอบกันอีกต่อไป เพราะพวกเขาเริ่มมีคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นจริงและไม่ต้องสวมใส่หน้ากาก แต่ต้องมีกรีนพาสเพื่อเข้าคอนเสิร์ต
เวลาเย็นของคนอิตาเลี่ยนไม่มีวันหยุดนิ่ง เพราะการพบปะพูดคุยเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ แม้ระยะห่างจะทำให้เราห่างกัน แต่เราจะทำทุกวิถีทางให้กลับมาใกล้ชิดกันได้มากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่เคยเป็นมันดีอยู่แล้ว การเดินทางครั้งใหม่อาจมีสิ่งให้พวกเราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะต้องทำ แต่การเดินทางไม่มีวันหยุดนิ่ง Aperitivo (อะเพริทิโว่) จะยังคงมีเสมอไปไม่ว่าอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม
ผู้เขียน : อาโล