บรรยากาศแสนสงบที่นิวซีแลนด์
บรรยากาศแสนสงบ อบอุ่น มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติและความสวยงามของบ้านเมืองสไตล์ตะวันตกสอดประสานกันอย่างลงตัว คือเสน่ห์ของดินแดนเกาะอย่างนิวซีแลนด์ ที่ชวนให้ใครหลาย ๆ คนอย่างเดินทางไปเยือนสักครั้ง โดยเฉพาะที่ “เมืองไครสต์เชิร์ช” (Christchurch) เมืองใหญ่ที่สุดบนเกาะใต้ ถึงแม้จะมีผู้คนอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่นกว่าเมืองอื่น ๆ แต่ยังคงบรรยากาศเงียบสงบตามสไตล์นิวซีแลนด์เอาไว้ได้ คิดแล้วก็อยากจะแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวทันที คงต้องวางแพลนหลายวันสักหน่อย เพราะกว่าจะเก็บเกี่ยวความประทับใจจากโซนใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ชได้หมด แค่วันเดียวอาจไม่พอ
ถ้าเดินทางไปถึงไครสต์เชิร์ชช่วงเช้า ๆ อยากให้เริ่มต้นกันที่การชื่นชมความงานของธรรมชาติใจกลางเมือง หมุดหมายแรกให้ตรงไปที่ Bridge of Remembrance สะพานแห่งความทรงจำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชาวนิวซีแลนด์ที่เสียชีวิตไปในช่วงสงครามโลกของที่ 1 และ 2 บริเวณนี้มีลานกว้างให้นั่งพักผ่อน และเหมาะจะนั่งวางแผนการเดินทางมาก ใกล้ ๆ กันนั้นจะมีสะพานให้ใช้เดินข้ามแม่น้ำเอวอน (Avon River) แม่น้ำสายหลักที่ตัดผ่านเมือง น้ำใสสะอาด พื้นที่โดยรอบถูกออกแบบให้เป็นสวนสาธารณะที่คนมานั่งชมวิว อ่านหนังสือ จิบกาแฟ ร่มรื่นสุด ๆ แต่ถ้าใครชื่นชอบธรรมชาติ อย่างไปถ่ายรูปที่ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่กลางสวนจริง ๆ แนะนำให้ไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจกันที่สวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) บรรยากาศชิลล์สุด มีสวนกุหลาบ สวนดอกไม้ และต้นไม้ใหญ่ที่รูปทรงแปลกตา ถ่ายรูปสวยมาก
รับแดดกันแล้ว ก็แวะมาผ่อนคลายในร่มและชมงานศิลปะกันต่อที่หอศิลป์ Christchurch Art Gallery Te Puna o Waiwhetū ที่นี่จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้า ตัวอาคารด้านนอกออกแบบให้คดโค้งประดับกระจก ว่ากันว่าเป็นการดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำเอวอน ใครชอบเสพงานศิลป์ไม่ควรพลาดเลย แวะมาหาแรงบันดาลใจดี ๆ กันที่นี่ได้ เพราะเขาเปิดให้เข้าฟรี โดนใจไปอีก ออกจากหอศิลป์มาแล้ว ถ้าท้องยังไม่หิวต้องลองไปนั่ง Christchurch Tramway รถรางชมวิวเมืองไครสต์เชิร์ช คลาสสิกมาก นอกจากจะเพลินไปกับทิวทัศน์รอบเมืองแล้ว รถรางยังพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญได้ทั่วเมืองอีกด้วย เช่น มหาวิหารไครสต์เชิร์ช (Christchurch Cathedral) และ พิพิธภัณฑ์แคนเทอร์เบอรี (Canterbury Museum) ขอบอกว่าสวยงามน่าไปเยี่ยมชมทุกที่เลย
เที่ยวจนเพลินแล้ว ก็ตามมาชิลล์กันต่อที่ Riverside Market ที่นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางไครสต์เชิร์ช เกิดมาเพื่อเอาใจสายกิน เพราะมีร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่ให้เลือกเยอะมาก ผู้คนก็ค่อนข้างหนาตากว่าย่านอื่น แถมมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบเลย และถ้าเดินต่อไปอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับแหล่งช้อปปิ้งกลางเมืองที่ค่อนข้างสงบ จะเดินเล่น หรือหาของอร่อยกินต่อที่นี่ก็ได้ เผลอ ๆ อาจเพลินจนหมดวันพอดี
สถานการณ์โควิด-19 ของเมืองไครสต์เชิร์ชตอนนี้ ถือว่าไม่รุนแรงมากนัก ผู้คนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ สถานที่ท่องเที่ยวก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนเดิม แต่ทุกคนก็ยังต้องถือมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดอยู่นะ ไปไหนต้องใส่มาส์กให้เรียบร้อย เว้นระยะห่างกับคนอื่น ๆ 2 เมตร ห่างเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ก็อุ่นใจดี บางสถานที่ต้องจองคิวล่วงหน้า หรือถ้าเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ก็อาจรอคิวนาน เพราะเขายังจำกัดจำนวนคนเข้า ลดความหนาแน่น และก่อนเข้าร้านค้าใด ๆ ทุกคนต้องสแกนไทยชนะ เอ๊ย! ไม่ใช่ ของที่นี่เขาเรียก “NZ Covid Tracer Application”
ต้องบอกว่ามาตรการหลัก ๆ ของเขาก็คล้ายเมืองไทยอยู่นะ ใครไปเที่ยวก็ปรับตัวได้ง่าย แต่ที่ทำให้รู้สึกดียิ่งกว่า คือทางไครสต์เชิร์ชและทั่วนิวซีแลนด์ เขาเพิ่งรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2021 เลยมั่นใจได้ยิ่งขึ้นว่า ถ้ามาเยือนเมืองไครสต์เชิร์ชก็อุ่นใจหายห่วงไปอีกนิด เพราะได้ยินข่าวมาว่านิวซีแลนด์เขาเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงต้นปี 2022 พร้อมออกข้อบังคับให้ผู้เดินทางชาวต่างชาติทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสถึงจะเดินทางข้ามประเทศได้ ตรงนี้เราเตรียมตัวกันไว้ก่อนได้ เพื่อให้ทริปท่องเมืองไครสต์เชิร์ชของเรา ทั้งราบรื่น สบายใจ และเก็บเกี่ยวความประทับใจกลับมาแบบจุก ๆ ไม่ต้องสะดุดเพราะโควิด-19
ชื่อผู้เขียน: turenature