สายถ่ายภาพต้องไม่พลาดที่นอร์เวย์ 

ใครสายแลนด์สเคปแบบผมพลาดไม่ได้กับการเก็บภาพวิวสวย ๆ และหมูบ้านมรดกโลกที่เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนเมื่อไหร่เป็นอันต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อไปออกทริปถ่ายรูป แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ไม่ได้ออกไปเที่ยวถ่ายรูปมาพักใหญ่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์โควิดที่นอร์เวย์ดีขึ้นมาก ประชากรเกือบ 70% ได้รับวัคซีนครบโดส รัฐบาลสั่งคลายล็อกมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงปาร์ตี้และคอนเสิร์ตก็กลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนเราสายดื่มด่ำธรรมชาติก็ได้เวลาเดินทางไปเก็บภาพสวย ๆ ก่อนเข้าฤดูหนาวแล้ว

เช็คสภาพอากาศและวันหยุดเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางไปที่เมืองเบอร์เกน นอกจากอุปกรณ์ถ่ายรูปแล้ว ห้ามลืมวัคชีนพาสปอต์และหน้ากากอนามัยเพื่อความอุ่นใจ เมื่อไปถึงก็รีบเดินขึ้นเขาไปที่จุดชมวิว Mirador de Floyen เพื่อถ่ายภาพเมืองเบอร์แกนจากจุดชมวิวนี้ แสงยามเช้าเป็นเวลาที่เพอร์เฟคที่สุดของการถ่ายภาพจากบนนี้ ใช้เวลาเดินกว่า 40 นาที จนได้ภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดสมใจ พักจนหายเหนื่อยก็ได้เวลาเดินลงกลับไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานแล้ว (ปกติการขึ้นจุดชมวิว Mirador de Floyen นี้สามารถใช้บริการรถรางขึ้นไปได้ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที แต่วันที่ผมไปถึงรถราง Floibanen ปิดปรับปรุงระหว่างวันที่ 20 กันยายน 2021 -1 เมษายน 2022)

เมื่อลงมาถึงในเมืองก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวัน มาที่เบอร์เกนพลาดไม่ได้ที่จะต้องมาทานอาหารทะเลสดๆ ใหม่ๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินปลาแซลมอน ต้องมาที่ตลาดปลา Fisketorget ริมท่าเรือเบอร์เกน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะที่นี่เป็นตลาดปลาใจกลางเมืองที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่12 จนถึงปัจจุบัน เปิดให้บริการในวันอังคารถึงเสาร์ เวลาประมาณ 11:00 - 18:00 น. วันพฤหัสบดีถึงเสาร์เปิดถึง 22:00น. ที่ตลาดปลามีที่นั่งทานอาหารทะเลสด ๆ และเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตผู้คนที่ตลาดปลาแห่งนี้

เมืองเบอร์เกนเคยเป็นท่าจอดเรือหลักในสมัยศตวรรษที่ 13 - 15 ของคาราวานเดินเรือบนทะเลเหนือที่เรียกว่า Hanseatic League จึงเกิดหมู่บ้านบริกเกน (Bryggen) และท่าเรืออายุกว่า 800 ปีนี้ขึ้น ปัจจุบันหมู่บ้านไม้เก่าแก่นี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในปี1989 ซึ่งถือเป็นไฮไลท์และจุดถ่ายรูปเช็คอินสำคัญ สำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก สายแลนด์สเคปต้องห้ามพลาดเก็บภาพบ้านไม้บริกเกนมรดกโลกนี้ เมื่อถ่ายภาพจนจุใจก็ได้เวลาเดินสำรวจบ้านริกเกน ด้วยโครงสร้างบ้านไม้ที่บิดเบี้ยวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหลเหมือนหลุดเข้าไปในยุคกลางอย่างแท้จริง ก่อนจะเดินทอดน่องชิล ๆ ซื้อของที่ระลึก นั่งจิบกาแฟริมท่าเรืออายุกว่า 800 ปีก่อนกลับบ้าน 

มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย เบอร์เกนทำให้ผมรู้สึกประทับใจทุกครั้งจริงๆ 

ผู้เขียน: Plapakpao