Georgia here I come....alone
“ชีวิตเราเคยให้รางวัลตัวเองอะไรบ้างนะ?”
การขอบคุณตัวเองที่เก่งและพยายามมาได้ขนาดนี้ ได้โอบกอดและมอบความสุขให้ตัวเอง นี่คือคำถามที่ผุดขึ้นมา เมื่อเรากำลังแพลนเดินทางมาจอร์เจียคนเดียว
ว่ากันว่าใครมาจอร์เจียและได้มา Juta หมู่บ้านเล็กๆ กลางเทือกเขาคอเคซัส ถ้าไม่ได้นอนโรงแรมที่มีชื่อว่า Fifth Season ถือว่ามาไม่ถึง เพราะที่นี่วิวสวยมากจริงๆ การได้นอนเล่นในเปลชมวิวเทือกเขาสุดยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมจิบไวน์และชิมอาหารพื้นเมืองไปด้วย เป็นอะไรที่ชิลมาก แถมที่พักส่วนตัวแบบเห็นวิวภูเขาก็ดีมากด้วยเช่นกัน
แต่ด้วยความสวยงามและอลังการของที่พักแห่งนี้ ก็ตามมาด้วยราคาที่อาจจะสูงสำหรับการเที่ยวคนเดียว ในตอนแรกเราก็คิดที่จะตัดสถานที่นี้ออก แต่คำถามที่เราตั้งไว้ข้างต้นก็เกิดขึ้น “ชีวิตเราเคยให้รางวัลตัวเองอะไรบ้างนะ?” พอกลับมาคิดๆ ดู ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นหรืออาจจะลืมนึกถึงตัวเองไปบ้าง
รอบนี้ก็เลยตกลงใจว่า “เอาก็เอา ถือว่าเป็นรางวัลให้ตัวเอง”
และจากนี้ก็คือการเดินทางไปลุยเดี่ยวที่ Juta มาดูกันว่าในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า Juta นั้น มีอะไรรอเราอยู่บ้าง
รถขับพาเรามายังจุดทางขึ้นภูเขาในหมู่บ้าน Juta ซึ่งจากจุดจอดรถเราต้องเดินขึ้นภูเขาไปยังโรงแรม Fifth Season อีก ประมาณ 20 นาที ด้วยโรงแรมนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัสอย่างที่บอกไป
เราแบกเป้ไว้บนบ่าแล้วเริ่มออกเดินทาง วิวรอบด้านมีแม่น้ำทอดยาว เสียงน้ำที่ไหลผ่านทำให้รู้สึกเย็นสบายใจ ผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวและฝูงม้าประปรายบนภูเขา ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่ทำอาชีพเลี้ยงม้า ดูเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากประเทศไทยอยู่มาก
เราเดินมาได้ 20 นาที ก็เห็นที่พักอันเป็นเป้าหมายของเราในครั้งนี้ สวยโดดเด่นเหมือนในรูปที่เราเห็นก่อนเดินทางมา หรืออาจจะสวยกว่าในรูปด้วยซ้ำ บรรยากาศในสถานที่จริงมันดีกว่าภาพถ่ายจนพูดกับตัวเองอยู่ล้านครั้งว่าขอบคุณที่เลือกมาที่นี่
ห้องนอนที่ติดหน้าต่างบานใหญ่ เปิดออกเห็นวิวภูเขาลูกโตที่ยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ
ทิ้งร่างที่เหนื่อยล้าเอนลงบนเปลสีสันสดใส จิบไวน์เบาๆ ลิ้มรสเครื่องดื่มขึ้นชื่อของจอร์เจีย ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ก้อนเมฆที่พัดผ่านไป เรามองดูนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังนอนอาบแดด บ้างก็ใส่หูฟังฟังเพลง เราเห็นคู่รักที่กำลังเอนจอยกับอาหารตรงหน้า
“นี่มันดินแดนสวรรค์ชัดๆ” เราคิดในใจก่อนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เป็นความสุขที่อยากจะตะโกนให้โลกรู้
ในช่วงเย็นเราเดินไปที่ทะเลสาบท่ามกลางหุบเขา อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ด้วยน้ำที่เป็นสีฟ้าผสมเขียวมรกต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามอลังการ
และระหว่างที่กำลังเดินทางกลับ ก็ได้พบพี่ๆ ชาวไทย 4 คน ที่กำลังยืนถ่ายรูป เราก็เลยได้เข้าไปทักทายและทำความรู้จัก จากความเงียบที่อยู่คนเดียวมานาน ก็ถูกเติมเต็มด้วยบทสนทนาของคนแปลกหน้า
การที่ได้พบคนที่มาจากพื้นที่เดียวกันในพื้นที่ที่แตกต่าง มันทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างประหลาด แต่นี่ก็คงเป็นเสน่ห์ของการเดินทางคนเดียว เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละครั้งเราจะเจอเรื่องราวอะไรบ้าง และในช่วงเย็นเราก็จบวันด้วยการนั่งกินข้าวกับพี่ๆ คนไทยในมื้ออาหารที่มีเมนูหลากหลาย ซึ่งถ้ามาคนเดียวก็คงสั่งอาหารเยอะขนาดนี้ไม่ได้
เราว่าถ้าใครมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก หรือคนเดียว ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสสักครั้ง แล้วเราจะได้รู้ว่า ความสวยงามของธรรมชาติ ของขวัญที่ไม่ใช้สิ่งของ เก็บกลับบ้านไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นความทรงจำตลอดชีวิตของเรานั้นเป็นอย่างไร
และนี่ก็คือเรื่องราว ความรู้สึกของการเดินทางคนเดียว ในประเทศจอร์เจีย กับหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า Juta
เรื่องและภาพ : Pigkaploy