เที่ยวมาเลเซีย สนุก สบายกระเป๋า ชิลเบา ๆ 2 วัน 1 คืน

Travel Stories
31 ต.ค. 64
5,072
0

2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวต่างประเทศได้ ….พาไปเที่ยวมาเลเซีย ใกล้บ้านเราแค่นี้เอง เที่ยวได้ครบรส แบบไม่ต้องลางานก็เติมแพชชั่นให้เราได้ ราคาเบาๆ คุ้ม สนุก แถมสบายกระเป๋าด้วย  

เริ่มแรกต้องบอกก่อนว่า การเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเข้าตัวเมืองมีหลายวิธีด้วยกัน  เช่น รถบัสราคาน่ารัก 12 ริงกิต (96 บาท) หรือ Express Train ราคาอยู่ที่ 55 ริงกิต (440 บาท) ชอบแบบไหน หรอืเน้นความสะดวกสบาย แล้วแต่คุณจัดเลย แต่ว่าเราใช้วิธีนั่งรถบัสเข้าเมืองกัน โดยใช้เวลาประมาณ  1 ชั่วโมง ถึงสถานี KL Sentral หรือสถานีรถไฟเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการเดินทาง แต่การเที่ยวที่มาเลเซีย ไม่ยากเลย มีป้ายบอกทางชัดเจนไม่ต้องกลัวหลง แต่ด้วยการเที่ยวแบบฉบับคนชอบความไว แต่ได้หลายจุด ใน 2 วัน 1 คืน เลยจะขอโชว์สเต็ปที่เที่ยวใกล้สายรถไฟกัน

วันแรกที่มาเลย์ จัดจุก ๆ ทั้งเที่ยว ทั้งกิน 

เมื่อเข้าที่พักเก็บสัมภาระเรียบร้อย เราไปลุยที่แรกกันเลย เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของมาเลย์ คือ BATU CAVE

การเดินทาง 

สถานี Putra สามารถนั่งรถไฟ KTM แค่ 5 สถานี ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

การเดินทางที่แสนสะดวก นั่งรถไฟ 20 นาทีถึง และเดินตามทางมาเรื่อย ๆ จะเจอถ้ำรามเกียรติ์ จุดสังเกตด้านหน้าจะมีรูปปั้นหนุมานยักษ์อยู่ ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมอยู่ที่ 5RM = 40 บาท 

ภายในจะมีประติมากรรมรูปปั้นต่าง ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับรามเกียรติ์ เดินชมความงามกันแบบเพลิน ๆ นอกจากนั้น  Batu Caves ยังเป็นศาสนาสถานสำคัญของชาวอินเดีย ที่นับถือศาสนาฮินดูในประเทศมาเลเซียด้วย   และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาไหว้สักการะและขอพร  

มาถึงถ้ำรามเกียรติ์กันแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของถ้ำบาตู คือรูปปั้นสีทองอันใหญ่ที่ตั้งตระหง่านสง่างาม รูปปั้นนี้ คือพระขันธกุมารสีทอง สูงถึง 42.7 เมตร และจะมีบันไดให้ขึ้น 272 ขั้น เพื่อไปชมวิวด้านบน

เดินชมกันมาสักพัก ท้องก็เริ่มหิวกันแล้ว ใจนึกถึงแต่ของอร่อยเต็มหัวไปหมด เมื่อหาข้อมูลร้านเด็ด ตกลงกันว่าจะไป Chocha Foodstore

การเดินทาง

นั่ง KTM มาลงที่สถานี Kuala lumpur เดินสกายวอร์คไปยังสถานี LRT Pasar Seni  

การเดินทาง ไปยังร้าน Chocha Foodstore อาจจะซับซ้อนนิด ๆ แต่ไม่ยากเกินไปถ้าเราอยากกิน หุหุ… เมื่อเดินมาถึงสถานี LRT Pasar Seni และเดินต่อไปอีกนิดเพื่อไปย่าน Jalan Petaling  แต่คุ้มความเหนื่อยแน่นอน

ภายในร้านบรรยากาศดีมากดีจนเราหายเหนื่อยไปเลย คาเฟ่แห่งนี้เดิมเป็นโรงแรมเก่าชื่อ MAH LIAN HOTEL และดัดแปลงมาเป็นร้านคาเฟ่ที่ลงตัว กลุ่มลูกค้าในร้านมีทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว 

เมนูที่ลองสั่ง คือ Duck Confit Rice ข้าวหน้าเป็ด อร่อยคุ้มค่าในราคา 26 ริงกิต แต่ด้วยความหิวเราเลยซัดกันไวแท้ จนลืมรูปสวย ๆ ส่งมาให้ดูเลย แต่ว่าเราเก็บบรรยากาศร้านมาฝากกันแทน

จากที่ฝากท้องไว้กับเป็ดน้อยแล้ว…ตัดสินใจมาเดินเล่นที่ JALAN PETALING หรือไชน่าทาวน์ของมาเลเซีย ย่านนี้มีของขายมากมาย หรือจะเลือกซื้อเป็นของฝากได้เช่นกัน แต่เราเน้นกินขนมกรุบกริบ กินลมชมบรรยากาศกันมากกว่า

นอกจากของกิน ของขายแล้ว แถวนี้ยังมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ ค่อยข้างเยอะเลยทีเดียว ทั้งลวดลายกราฟิตี้ ที่ปะปนไปกับร้านค้า และผู้คนที่เดินผ่าน ให้ความรู้สึกคลาสสิคนิด ๆ สาย Vlog Blogger ที่ชื่นชอบในการทำคอนเทนต์ หรือต้องการทำฟุตเทจขาย ลองหามุมเท่ ๆ แล้วจัดกันสักหน่อยรับรองเฟี๊ยส 

ก่อนที่จะกลับเข้าที่พัก ขอแวะไปแลนด์มาร์กที่ไม่ไปไม่ได้เลย และเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของมาเลเซีย นั่นก็คือตึกแฝดเปโตรนาส อาคาร 88 ชั้น หรือ อาคาร KLCC 

 การเดินทาง 

รถไฟสายสีชมพู LRT สายปุตรา แวะลงที่สถานี KLCC

ในโซนของตึกเปโตรนาส มีห้าง Suria KLCC มอลล์ขนาดใหญ่ต้องร้องว๊าวว… ภายในมีร้านค้า เอาท์เล็ต  แบรนด์ดัง ๆ ที่มีให้คุณช้อปปิ้งเพลิน ๆ และที่ทำให้เราช้อปสนุกมากขึ้นก็คือราคาจะถูกกว่าบ้านเรา และยกเว้นภาษีท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกสรรมากมายเลยล่ะ  หลังจากช้อปปิ้งกันเสร็จสรร เรารีบพุ่งตัวไปที่ร้านอาหารทันใด กินอาหารรอเวลาที่จะชมไฮไลท์น้ำพุสีรุ้งของที่แห่งนี้กัน 

ร้าน Madam Kwan’s เป็นอาหารมาเลเซียต้นตำรับระดับตำนาน ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 40 โดยทางร้านคิดค้นสูตรอาหารมาเลย์ มีทั้งแบบสูตรดั่งเดิมของมาเลย์ และแบบฟิวชั่น เพื่อให้ตอบรับลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งเมนูต่าง ๆ จะเน้นไปทางเครื่องแกงเป็นส่วนใหญ่ อย่างเมนู Nasi Bojari ราคาอยู่ที่ 24.90 ริงกิต ในจานมีหลายองค์ประกอบด้วยกัน ทั้งไก่ทอดกรอบ ๆ เนื้อวัวหมักแบบนุ่มหอม และกุ้งรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวหลากสี แต่ราคาแอบแรงงง…นิสสนึง แต่ในเมื่อเรามาถึงที่แล้ว ก็ลองสักครั้งให้รู้ 

หลังจากอิ่มพุงกาง ก็มาอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มความสวยงามกับน้ำพุหลากสีกันบ้าง เพราะได้เวลาไปสวนสาธารณะ KLCC Park กันแล้ว แนะนำให้มาตอนค่ำ ๆ เป็นต้นไป เพราะไฟสวยจนไม่อยากกระพริบตา พร้อมกับน้ำพุสายรุ้ง ที่โลดแล่นไปมา เพลินมากจริง ๆ ตรงจุดนี้ถ้าไม่มาเห็นกับตา ถือว่าพลาด! 

วันที่สองที่มาเลย์ บันทึกความทรงจำ ว่าฉันได้มาเยือน 

วันที่สองของการใช้ชีวิตที่มาเลเซีย ก่อนจะกลับบ้าน เราก็อยากบันทึกภาพสวย ๆ ไว้สักหน่อย จะบอกว่าที่มาเลเซียนั้นมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก ด้วยความที่มาเลเซียมีหลากหลายทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คนหลายเชื้อชาติ ทำให้รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ทำให้ชวนหลงใหล ถ้าคุณได้มาสัมผัสคงจะเข้าใจว่าทำไม คนถึงชอบมาที่แห่งนี้ เพราะว่าได้เห็นชีวิตที่ดำเนินไป วิถีการกิน ศิลปะที่สอดแทรกระหว่างตึกที่ทันสมัย และบ้านเรือนที่ยังคงดั้งเดิมกันอยู่นี่แหละ ถึงทำให้หลงรัก

สรุปการเที่ยวครั้งนี้ 2 วัน 1 คืน ถึงจะเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่เป็น 2 วันที่มีความสุขสุด ๆ ที่ได้ทั้งความสนุก ความชิล ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ และที่สำคัญสบายกระเป๋า ที่สนนราคาอยู่ที่ไม่เกิน 8,000 บาท