Best Photo Spots in Hanoi

เที่ยวเวียดนาม กี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สำหรับเรานี่คือเรื่องจริง

เพราะแต่ละเมืองของเวียดนามนั้นมีความหลากหลายมาก ทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรม มีทั้งความเป็นยุโรปและเอเชียรวมอยู่ในประเทศเดียวกัน ที่สำคัญสามารถเดินทางจากไทยไปได้ไม่ยาก บินตรง ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง แถมมีสายการบินให้เราได้เลือกเพียบ

 

ทริปนี้เราเลือกไปฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองรองจากโฮจิมินห์ซิตี ที่นอกจากจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ที่มีความเป็นมามาอย่างยาวนานแล้ว อยากบอกว่า สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้น ถ่ายรูปออกมา สวยปังมากๆ

 

และเนื่องจากฮานอย เป็นเมืองหลักที่ฝรั่งเศสใช้เป็นศูนย์กลางสมัยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ในเมืองจึงมีสถาปัตยกรรมแบบโรมันที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นผสมอยู่ด้วย ทำให้ฮานอยมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวต่างแวะมาอย่างไม่ขาดสาย ส่วนถ้าใครอยากเสพธรรมชาติ ก็สามารถเดินทางออกไปนอกเมืองได้ ใช้เวลาไม่นาน เพียง1-2 ชั่วโมงเท่านั้น  

 

Quảng Phú Cầu คือสถานที่ที่เราอยากนำเสนอ ให้ทุกคนเซฟไว้ หากมีแพลนไปเที่ยวฮานอย อยู่ห่างจาก โซน Old Quarter ของฮานอยเพียง 38 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่ง Quảng Phú Cầu เป็นที่รู้จักกันในนาม Incense Village หรือหมู่บ้านที่ผลิตธูปนั่นเอง เรียกว่าเดินผ่านบ้านหลังไหน ก็ล้วนแต่ทำธูปกันทั้งนั้น และด้วยความที่ต้องย้อมสีธูปแล้วต้องนำมาตากแดดให้แห้ง เลยกลายเป็นมุมถ่ายรูปสุดปังให้พวกเรานักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย

การเดินทางไปยัง Quảng Phú Cầu ถึงแม้ระยะทางจะห่างจากฮานอยเพียงแค่ 38 กิโลเมตร แต่ด้วยกฎหมายเรื่องความเร็วที่เคร่งครัด ระยะเวลาที่ใช้ก็อาจจะนานนิดนึงนะคะทุกคน

🚖 เดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

🚌 เดินทางด้วยบัส นั่งสาย 91 ลงสถานี Yen Nghia ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ชี้เป้าบ้านหลังที่จัดเรียงธูปสวยงาม ถ่ายรูปปัง

📍 ปักหมุดบ้านหลังนี้กันได้เลย Làng làm hương đỏ

https://goo.gl/maps/33sUkfAnPrJbGzhM6

มีค่าเข้า คนละ 100,000 VND นะคะ แต่ว่าคุ้ม ลุงเจ้าของบ้านจอยมาก บอกเลยว่าใครมีแพลนไปเที่ยวฮานอย แล้วชอบถ่ายรูป ต้องเก็บที่นี่ลงลิสต์ไว้เลยนะ ส่วนเรื่องภาพมุมสูง ไม่มีโดรนก็ไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าของบ้าน ทำบันไดให้เราเดินขึ้นไปถ่ายมุมสูงได้อย่างเป๊ะปังมาก ได้มุมตามที่เราถ่ายมาฝากเป๊ะๆ แน่นอน

Tràng An

สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ตั้งอยู่ในจังหวัด Ninh Binh ห่างจากฮานอยประมาณสองชั่วโมงเท่านั้น จ่างอาน  เป็นแหล่งภูมิทัศน์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแบบผสม ทั้งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ที่มีทั้งแม่น้ำและภูเขาโอบล้อม ซึ่งกิจกรรมของแหล่งท่องเที่ยวนี้ ก็ไม่พ้นการล่องเรือชมวิว และแวะถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ระหว่างทางไปเรื่อยๆ การเดินทางมาที่นี่ เราเลือกเช่ารถพร้อมคนขับมาแบบ One-Day Trip สะดวกสบายดี แค่บอกชื่อสถานที่เค้าว่าเราอยากไปไหนบ้าง

บรรยากาศระหว่างล่องเรือ ก็จะประมาณนี้ โดยเราใช้เวลาล่องเรือชมวิวไปเพลินๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง

ระหว่างล่องเรือ เราก็จะได้แวะลงเที่ยวตามจุดต่างๆ ส่วนมากก็จะเป็นวัดหรือสถานที่ประกอบพิธีกรรม ซึ่งมีความสวยงามและน่าศรัทธามาก

Tom Coc

ตาม ก๊อก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ล่องเรือ แต่จะเป็นคนละแบบกับที่จ่างอาน เพราะจะเป็นการล่องเรือผ่านทุ่งนาที่ปลูกอยู่ที่ตีนเขา ความสวยงามในแต่ละฤดูก็จะต่างกันออกไป เรามีเวลาไม่มากพอ เลยไม่ได้ล่องเรือตรงจุดนี้ ได้แต่เก็บภาพมุมสูงมา

Bich Dong Pagoda

วัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัด Ninh Binh สร้างขึ้นราวประมาณปี ค.ศ. 1400  ห่างจากจุดล่องเรือ Tam Coc ประมาณ 2 กม. เป็น Route ที่นักท่องเที่ยวนิยมปั่นจักรยาน เนื่องจากบรรยากาศระหว่างทางนั้นสวยงามมีภูเขาและทุ่งนาให้ชม หากใครชื่นชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และมุมสงบๆ ต้องถูกใจที่นี่แน่นอน

Mua Cave

หากใครอยากชมวิว Tam Coc แบบ 360 องศา ต้องไม่พลาดที่นี่เลย แต่เห็นบันไดกันมั้ย นั่นแหละ เราต้องเดินขึ้นบันได 300 ขั้น

กว่าจะเดินขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของ Mua Cave นั้น อยากจะบอกเลยว่าเหนื่อยมาก แต่ว่าวิวที่เห็นกับบรรยากาศด้านบนนั้น ดีมากๆ

ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาอยู่นะ (ระหว่างทางมีร้านขายของชำ แวะซื้อน้ำ ซื้อไอติมกินแก้เหนื่อยกันได้)

และไหนๆ ก็เดินขึ้นมาแล้ว เราเลยขอพักชิลๆ บนนี้สักพัก

Old Quarter Hanoi

เราใช้เวลาทั้งวันที่ Ninh Binh กว่าจะกลับมาถึงฮานอยก็ใกล้มืดแล้ว เลยไปเก็บภาพกลางคืนมุมฮิตนี้ ซึ่งเราถ่ายจากร้านอาหารฝั่งตรงข้าม

หลังจากที่เมื่อวาน เที่ยวแบบเต็มที่คุ้มเวลาสุดๆ เช้าวันนี้เราเลยเลือกเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าแบบชิลๆ นั่งมองวิถีชีวิตชาวฮานอย แต่ก็ไม่พลาดแวะถ่ายรูปตามจุดฮิตต่างๆมาฝากทุกคนเหมือนเดิม

มุมถ่ายรูปกับรางรถไฟ

อันที่จริงมุมรางรถไฟที่นิยมถ่ายรูปกัน จะมีอยู่สองแห่ง ซึ่งจุดแรกนี้จะไม่มีรถไฟผ่านแล้ว เนื่องจากเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในอดีต และจะมีเจ้าหน้าที่คอยกันไม่ให้เราเข้ามา นอกจากแจ้งว่าเราจะเข้าไปนั่งรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้านไหนในนี้ ถึงจะเข้ามาได้ ซึ่งต้องมีพนักงานของร้านเดินมารับ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Cf4sNDo4LYGScX5CA?g_st=ic

ส่วนรางรถไฟอันนี้เป็นอีกพิกัดสุดฮิต ซึ่งก็จะมีรถไฟผ่านอยู่เรื่อยๆ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/KdTRtAvZzJHZz5WJ8?g_st=ic

Nhà Sách Mão

บางคนอาจมองว่าที่นี่เป็นร้านหนังสือทั่วๆ ไป แต่เราว่าที่นี่ถ่ายรูปสวยนะ ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้า แต่เค้ามีเครื่องดื่มขาย พร้อมที่นั่งอ่านหนังสือ เราแอบนั่งเพลินๆ ไปแป๊บนึง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZjpddFhCdMvnAsQV8?g_st=ic

St. Joseph's Cathedral

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่เราว่าน่ามาถ่ายรูป ก็คือ อาสนวิหารเซนต์โจเซฟ (St. Joseph's Cathedral) โบสถ์ Neo-gothic ที่มีอายุมากกว่า 130 ปี ถือเป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอยและยังเป็นสิ่งก่อสร้างแรกๆ ที่สร้างขึ้นสมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ โบสถ์ ยังมีคาเฟและร้านค้าน่ารักๆ อีกมากมายให้เราได้เดินเล่นกัน ดูเวลาอีกทีก็ต้องไปสนามบินแล้ว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EUL6PMEakXbWCu2E9?g_st=ic

ยังไงก็ขอฝากอีกหนึ่งทริปนี้ของเราไว้กับทุกคนด้วยนะ เผือใครจะไปฮานอย หรือกำลังตัดสินใจอยู่ บอกเลยว่าต้องลองไปดูสักครั้ง มันคุ้มค่าที่ได้ไปจริงๆ

 

เรื่องและภาพ : Once in a blue moon