ยกแก๊ง มาคู่ มาเดี่ยว ก็เที่ยวได้สนุกไม่รู้เบื่อ ที่โอมาน
มาเยือนพื้นที่ดินแดนอาระเบีย แถบตะวันออกกลาง อาณาจักรที่เต็มไปด้วยทะเลทราย และวิวทิวทัศน์เหมือนในนิยาย ที่มีเจ้าชายอาหรับรูปหล่อ และเจ้าหญิงแสนสวย….เอ่อ นอกเรื่องมาสักพักใหญ่เรากลับมาที่เรื่องเที่ยวกันดีกว่า เกริ่นมาขนาดนี้ ประเทศที่เราพูดถึงคือโอมาน ไม่ว่าจะมาเที่ยวเป็นแก๊ง มาคู่ มาเดี่ยว ก็สนุกได้ คำถามที่มีอยู่ในใจว่าเมืองที่มีทะเลทรายมันจะสวยงามไหม?…แต่จริง ๆ แล้ว คือสุดยอดสำหรับการมาพักผ่อนผจญภัยเลยละ
“รัฐสุลต่านโอมาน” หรือโอมานที่เราเรียกกันสั้น ๆ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันยาวนานกว่า 5,000 ปี เราไปเริ่มผจญภัยในดินแดนทะเลทรายกันเลย
1. ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands)
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัสกัตไปประมาณ 190 กิโลเมตร เนินทรายยาวประมาณ 200 กิโลเมตร ยาวสุดสายตา ทะเลทรายวาฮิบาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างมากที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัสเม็ดทรายอันแสนละเอียด ถ้าคุณชอบความสนุก มีความถึก และทน ก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่ไม่ได้เย็นสบายหรอกนะ…ร้อนทะลุครีมกันแดด แต่ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราเคลิ้มไปกับวิวทิวทัศน์ ภาพของทรายสีน้ำตาลแดง ตัดกับเส้นขอบฟ้า มันช่างคอนทราสสวยงามไปซะหมด รีบกดชัตเตอร์ เก็บภาพกันรัว ๆ ได้เลย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมน่ารัก ๆ กับน้องอูฐ ที่พาคุณเดินนุ่มนิ่มไปตามเนินทราย น้องน่ารักมากเลยเชียว อยากจะเกี่ยวกลับบ้านไปสักตัว หรือถ้าอยากเร้าใจก็มีขับรถท่ามกลางทะเลทรายเหมือนกัน อีกอย่างที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์อย่างที่สุด คือการตั้งแคมป์ปิ้ง นอนท่ามกลางทะเลทราย ชมดาววิ้บวั้บ มาถึงทั้งทีต้องจัดกันให้เต็ม
2. โอเอซิสวาดิหรือวาดิชาบ (Wadi Shab)
มาเที่ยวแหล่งทะเลทรายแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ทราย อากาศแห้งอย่างเดียวเท่านั้น แต่แหล่งโอเอซิสที่เป็นแลนด์มากร์กสำคัญของโอมานก็สวยไม่แพ้กันอย่างวาดิชาบ ซึ่งอยู่ในแคว้น Al Sharqiya รอบ ๆ แหล่งน้ำจะเต็มไปด้วยต้นปาล์ม โขดหินที่ตั้งสลับกันไปมาเปรียบเหมือนเป็นฉากกั้น บริเวณสระน้ำและน้ำตกในถ้ำ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเข้าไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ในระหว่างทางคุณจะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ
ภายในบริเวณคุณจะได้ปลดปล่อยความร้อนที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ด้วยกิจกรรมเย็นฉ่ำอย่างการเล่นน้ำ หรือถ้าหิวก็สามารถปิกนิก จัดปาร์ตี้เบา ๆ นั่งเมาท์กับเพื่อน หรือถ้ามาคนเดียว ก็เพลินไปกับการถ่ายรูปไม่รู้เบื่อเลย
3. หลุมน้ำบิมมาซิงก์โฮล (Bimmah Sinkhole)
ความสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งเลยนั้นมีมากมาย แต่เมื่อคุณมาโอมานแล้ว ที่แห่งนี้คือความอเมซิ่งโอมานเลยละ หลุมน้ำสีเขียวมรกต ทั้งสะท้อนแสงระยิบระยับอยู่ท่ามกลางบ่อดินสีส้มขนาดใหญ่
หลุมน้ำบิมมาซิงก์โฮล ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Hawiyat Najm ทางตอนเหนือของประเทศ เกิดขึ้นจากกระบวนการกัดเซาะตามธรรมชาติของหินปูนจนเกิดเป็นหลุมใหญ่ และมีน้ำทะเลไหลซึมผ่านเข้ามา ลึกประมาณ 20 เมตร
กิจกรรมมัน ๆ ดับร้อนก็ต้องนี่เลยว่ายน้ำ และการทำสปาปลารู้สึกถึงความดุ๊กดิ๊กเจ้าปลาไปมา ทำให้เคลิ้ม ๆ เพลิน ๆ ดีเหมือนกัน หรืออยากถ่ายรูป พักผ่อนก็เดินเล่นที่สวนรอบนอกได้ การเดินทางนั้นห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 113 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
4. มูซานดัมฟยอร์ด (Musandam Fjords)
อีกชื่อเรียกกันว่า “นอร์เวย์แห่งอาระเบีย” สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงาม และน่าทึ่งของโอมาน ส่วนผสมที่ลงตัวของภูเขาทะเลทรายที่ตั้งตระหง่านรายล้อมทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัล พร้อมกิจกรรมการล่องเรือโอมานิเรือแบบดั้งเดิมของโอมาน ชมปลาโลมา ชมทะเลสีคราม ตลอดทริปใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อเรือแล่นผ่านไปครึ่งทางก็จะมีจุดจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้นได้เช่นกัน
5. ภูเขา Jebel Akhdar
Jebel Akhdar ถ้าแปลเป็นภาษาไทยคือ “ภูเขาของดวงอาทิตย์” ความสวยงามที่หาได้ยากยิ่งนักกับภาพหิมะสีขาว ผสมกับสีแดงส้มอ่อน ๆ ของทะเลทราย มีสภาพอากาศที่เป็นเอกลักษณ์และผลไม้นานาพรรณ เช่น แอปริคอต, พลัม และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ Jebel Akhdar อีกด้วย อย่าลืมถ่ายรูปเก็บภาพไว้ หรือจะนั่งพักดูวิวให้หายเหนื่อยก่อน แล้วค่อยเดินทางเที่ยวต่อ ถ้าหากอยากแวะมาที่นี่การเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากเมืองมัสกัต
เราเน้นที่เที่ยวธรรมชาติท่ามกลางทะเลทรายมาเยอะแล้ว ลองเข้ามาในเมืองดูบ้างดีกว่า แต่ที่โอมาน เขาก็มีแหล่งที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์เยอะมากเหมือนกัน ตามไปดูกันว่ามีที่ไหนเจ๋ง ๆ บ้าง
6. เมือง Nizwa (Nizwa City)
Nizwa (Nizwa City) เมืองใหญ่ที่สุดของเขต Ad Dakhiliyah เป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และร่องรอยของความรุ่งเรืองมั่งคั่งในอดีต อีกทั้งยังมีปราสาท Nizwa Fort ปราสาทใหญ่ และเก่าแก่ของเมือง และเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ หรือเป็นแลนด์มาร์กของโอมานเลยทีเดียว นอกจากแหล่งที่เที่ยวให้คุณได้ศึกษาทางประวัติศาสตร์แล้ว เมืองนี้ยามค่ำก็คึกคัก สนุกสนานไม่แพ้กันเลย
7. Sur (เมืองซู)
เมืองแห่งชายทะเลที่มีชื่อเสียงในเรื่องอู่ต่อเรือ (Dhow) แบบดั้งเดิม สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศโอมาน และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยม ที่จะมาปิกนิก ตั้งกลุ่มพบปะสังสรรค์กัน พร้อมกับชมนกนางนวล หรือมองทะเล ฟังเสียงน้ำที่ซัดเข้าฝั่งก็เพลินตา เพลินใจ และไฮไลต์การชมเต่าขึ้นมาทำรังในทุก ๆ ปี
8.มัสยิดสุลต่านกาบูส (Sultan Qaboos Grand Mosque)
เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับ ด้วยการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมแบบมัสยิดอิสลาม มีลักษณะเป็นโดมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมที่มั่นคง ดูอลังการงานสร้าง ภายรอบนอกนั้นปลูกต้นไม้ และดอกไม้ประดับ และแน่นอนว่าภายในโถงกลางมีพรมทอมือไร้รอยต่อสวยงามไร้ที่ติ โดยใช้เวลาทอถึง 4 ปีเลยทีเดียว และแชนเดอเลีย (โคมไฟระย้า) ความสูง 14 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประดับอยู่กลางโถงละหมาด อยากให้คุณได้มาลองเห็นกับตาสักครั้งว่าสวยงามเพียงไร ละมุนต่อใจที่สุดเลย ถ้าใครจะมาเก็บภาพก็อย่าลืมเช่าชุดสวย ๆ ให้ดูเข้ากับสถานที่ไว้ก็ดีไปอีกแบบนะ
9. ตลาด Muttrah Souk (Old Muttrah Souk)
เที่ยวมาก็หลายที่แล้ว ต้องปิดท้ายด้วยตลาดสำหรับคนชอบช้อป และชอบซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากกัน เตรียมเงินให้พร้อมแล้วไปลุยกัน
Muttrah Souk เป็นตลาดเก่าแก่ที่สุดของดินแดนอาหรับเลยก็ว่าได้ ด้วยสไตล์การเป็นตลาดแบบดั้งเดิม ถึงจะคับแคบเบียดกันสักหน่อย เพราะมีร้านค้าที่แน่นไปทุกส่วน แต่ก็สนุกไปอีกแบบ เดินเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว ของที่ขายนั้นก็มีให้ครบเกือบทุกอย่างที่อยากได้ สินค้าพื้นเมือง สินค้าของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว ผ้าทอลวดลายสวยงาม โอ้ว มันช่างสนุกอะไรเช่นนี้เนี่ย
เอาละ ก็แนะนำที่เที่ยวโอมานกันไปพอประมาณ จริง ๆ แล้วที่ประเทศโอมานยังมีที่เที่ยวให้คุณได้มากับเพื่อน มากับคู่รัก หรือจะมาคนเดียว ก็เที่ยวได้สนุกสนานทุกที่เลย ไม่ต้องกลัวหลงทาง เพราะคนที่นี่ nice ทุกคน และ สปีกอิงลิช ฟุตฟิตไฟลุกเลย…อยากจะแนะนำอีกสักนิด มาเที่ยวโอมานควรเช่ารถยนต์จะสะดวกมากกว่ารถสาธารณะ อยากไปที่ไหน ก็จอดพัก ถ่ายรูปได้ตลอด แต่ถ้าขับรถไม่เป็น ก็มีบริการเช่าเหมารถให้คนขับนำเที่ยวได้เช่นกัน จะได้ไม่ต้องกังวลเส้นทางหรือเหนื่อยด้วย …เที่ยวให้สนุกนะทุกคน