เสพความหนาวเย็น เยือนแดนหมีขาว 10 สถานที่เที่ยวรัสเซีย สวยสุด ฉุดไม่อยู่

Travel Stories
24 พ.ย. 64
3,674
0

          อยู่เมืองไทยมันร้อนนน…ไปเมืองนอกทั้งที เอาที่หนาวๆ เย็นเจี๊ยบๆ กันไปเลย ว่าแต่ไปเที่ยวไหนดี? ถ้าคุณมีคำถามนี้อยู่ในใจ ไม่ต้องลังเล เสพความหนาวเย็น และชอบความสวยงาม วีซ่าไม่ต้อง จัดไปกับรัสเซีย แดนหมีขาว เอาให้หนาวสุดขั้วกันไปเลย

 

 

1.จัตุรัสแดง (Red Square)

               หนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องมาถ่ายรูป ถ้าไม่มีเดี๋ยวจะหาว่าไม่ถึงรัสเซีย เป็นพื้นที่ลานกว้างรูปทรงจัตุรัสสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ใจกลางเมืองมอสโก เป็นลานที่สามารถให้กลุ่มคน มาร่วมทำกิจกรรมตลอด ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ อาคารรอบ ๆ ที่มีสีแดง จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องถ่ายรูปกันทุกคน ที่เป็นไฮไลต์ คือเป็นสถานที่สวนสนามของกองทัพเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร  วันชาติ หรือโอกาสสำคัญ ๆ   อีกแห่งคือ มหาวิหารเซนต์เบซิล (Saint Basil’s Cathedral) รูปทางคล้ายหัวหอม เพราะเป็นมหาวิหารที่ถูกใช้เป็นภาพสัญลักษณ์แทนประเทศรัสเซีย ซึ่งเราได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ จนเหมือนเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศไปแล้ว รอบ ๆ บริเวณ ยังมีสถานที่แวะซื้อของฝาก หรือของที่ระลึกด้วย

 

 

2.ห้างสรรพสินค้ากุม (GUM)

         อยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสแดงมากนัก เดินมาชิล ๆ ก็ได้ แต่ความหนาวนั้นสุด ๆ ถ้าคุณชอบเสพความหนาวก็ลองเดินมาตามทางได้ กุมเป็นห้างที่ออกแบบสวยมาก ตอนแรกที่เข้าไป ให้ความรู้สึกเหมือนพิพิธภัณฑ์ เพราะห้างนี้มีหลังคาเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้ภายในสว่างได้ด้วยแสงจากธรรมชาติ เป็นห้างที่เก่าแก่ในย่านนี้ที่ต้องมาเยือน ถ้าใครจะมาช้อปปิ้ง จะของแบรนด์เนม หรือของกินก็เลือกได้เลย แต่ที่แนะนำมาที่นี่ทั้งที ต้องลองกินไอศกรีมช็อกโกแลตอร่อยมาก หรือจะลองรสอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ถ้าถามว่าร้านไหนอร่อย คำตอบคือเลือกยากมาก เพราะอร่อยทุกร้านเลย รับประกัน

 

 

3.ถนนอารบัต (Arbat Street)

             ถนนสายเก่าแก่ของกรุงมอสโก นับว่าเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นคนรัสเซียเอง หรือชาวต่างชาติ ก็เป็นสถานที่ฮิตตลอดกาล ที่ถนนอารบัตถือว่าเป็นถนนแห่งงานศิลป์อย่างแท้จริง เพราะเกือบตลอดเส้นทางยาว เป็นแหล่งรวมของขาย งานศิลปะ ศิลปินให้มาแสดงฝีมือ หลากหลายแนว และตลอดสองข้างทางยังชมสถาปัตยกรรมบ้านเมืองแบบยุโรปที่สวยงามอย่างมาก ถ่ายรูปสวยทุกตารางของพื้นที่เลย

 

            นอกจากนั้นยังมีของที่ระลึก ซื้อติดไม้ ติดมือกลับบ้าน  ตุ๊กตาพื้นเมือง รูปล้อเลียน หมวก กระเป๋า และสินค้าอีกหลากหลาย รับรองของไม่โหลแน่นอน หรืออยากจะนั่งชิลตามคาเฟ่ หรือร้านอาหาร ชมบรรยากาศดี ๆ มองผู้คนเดินไปมา ก็เพลินได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของรัสเซียแห่งหนึ่งเลย

 

 

4.สถานีรถไฟใต้ดินมอสโก (Moscow Metro)     

              อีกสถานที่ขึ้นชื่อระดับโลกเช่นกัน หลายคนอาจจะมองข้ามไป เพราะเห็นว่าเป็นทางผ่านสำหรับเดินไปยังที่ต่าง ๆ แต่สิ่งพิเศษของรถไฟใต้ดิน คือแต่ละสถานี มีความแตกต่างไม่เหมือนกันสักแห่งแต่ละสถานีมีเรื่องราวแอบแฝงอยู่ คือเรียกว่าเหมือนท่องงานศิลปะ ดูพิพิธภัณฑ์ไปด้วยระหว่างรอรถไฟมาเลย แวะลงสถานีไหนต้องถ่ายรูปเก็บไว้ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการงานสร้างมาก แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของรัสเซียจริง ๆ ข้ามมาฝั่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกันบ้าง เมืองหลวงเก่าของรัสเซีย ที่นี่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองเช่นกัน มาดูกันสิว่าที่ไหนน่าสนใจบ้าง

 

 

5.พระราชวังฤดูร้อน เปเตียร์กอฟ (Peterhof) 

             สร้างโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศ และล่าสัตว์ในฤดูร้อน ออกแบบก่อสร้างศิลปะแบบผสมผสาน Baroque และ Renaissance ภายในแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ เช่น ห้องรับรองที่สวยงาม วิจิตร สง่างาม สวนที่กว้างขวาง ประกอบไปด้วยน้ำพุ ซึ่งจะเปิดช่วงฤดูร้อนเท่านั้น บริเวณกลางน้ำพุมีประติมากรรมสีทอง และรูปปั้นสลักอ่อนช้อย  โดยรอบสวนนี้มีน้ำพุตั้งอยู่ถึง 150 แห่งด้วยกัน เป็นจุดที่ต้องถ่ายภาพไว้ ว่าสักครั้งได้มาเยือน

 

 

6.พระราชวังแคทเธอรีน (Catherine Palace)

              พระราชวังแคทเธอรีน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1717 โดยพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีของพระเจ้าปีเตอร์ มหาราช เมื่อคุณเดินผ่านเข้าประตูแรกไป ทำให้สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ และความขลังมากเลยทีเดียว ระหว่างทาง ก็ใช้เวลานานกว่าจะเดินเข้าถึงภายในตัวอาคาร เพราะมัวแต่ถ่ายรูปเพลิน เมื่อเข้ามาภายใน ก็ต้องตะลึงไปกับการตกแต่งที่สวยสดงดงาม หาที่ติไม่ได้ เหมือนเรากำลังอยู่ในหนังภาพยนตร์เลยละ

 

           พระราชวังแห่งนี้ มีห้องมากกว่า 20 ห้อง และสามารถเข้าชมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ก็มากเพียงพอให้เราได้เสพความสวยงามได้นานเลย จุดเด่นอยู่ที่อาคารสีฟ้าที่มีโดมสีทอง และห้องอำพัน ภายนอกมีสวนอุทยานที่เงียบสงบ เมื่อถึงฤดูกาลต้นไม้ ใบไม้เปลี่ยนสี จะทำให้รู้สึกสดชื่น สวยงาม หรือจะสูดบรรยากาศที่แสนบริสุทธิ์ เดินเล่นรอบ ๆ  และเพลินไปกับสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ท่ามกลางความหนาวเย็นได้ไม่รู้จบ…ต้องลองมาให้เห็นกับตาแล้วคุณจะฟินจนลืมความหนาวไปเลย

 

 

7.โบสถ์แห่งหยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood)

                อยู่บริเวณริมคลองกิโบดอฟ (Griboedov)  เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก  ตัวโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมรัสเซียแบบดั้งเดิมโดยแท้จริง ใช้เวลาสร้างยาวนานกว่า 20 ปี การออกแบบภายใน และสถาปัตยกรรมเต็มไปด้วยความสง่างาม สวยเหมือนโดนสะกดให้เรามองค้างไว้ ประดับประดาด้วยกระเบื้องโมเสก พร้อมกับรูปภาพโมเสกขนาดใหญ่

                 ภายนอกคุณยังได้ชมวิวริมคลอง ถ่ายรูปคูล ๆ อัปไอจีได้รัว ๆ คูลแน่นอนละ เพราะอากาศหนาวสุด ๆ ไปเลย และยังช้อปปิ้งของฝากกันได้ หรือจะแวะกินร้านข้างทางก็อิ่มอร่อย ราคาไม่แพงด้วย แต่จะบอกว่าไส้กรอกที่รัสเซียอร่อยมากนะ ต้องลองเรามาเอาใจสายธรรมชาติกันบ้าง บางคนคิดว่าเที่ยวรัสเซียมีแต่เมือง มีแต่ทัวร์โบสถ์กันหรือ ? มาม่ะ เราจะพาไปชมกัน เที่ยวรัสเซียขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่เรียกว่าที่สุดอีกแห่งเลยทีเดียว ด้วยภูมิประเทศกว้างใหญ่ ความหลากหลายทางธรรมชาติย่อมมีแน่นอน เพียงแต่ว่าการไปเที่ยวเองนั้นอาจจะอันตราย ต้องมีผู้เชี่ยวชาญหรือไกด์นำทางไปด้วย

 

 

8.ทะเลสาบไบคาล (Baikal)

          ทะเลสาบไบคาลเป็นแลนด์มาร์กที่กำลังมาแรงของรัสเซีย หลายคนอาจจะคิดว่ามาเที่ยวที่ทะเลสาบที่อยู่บริเวณไซบีเรีย ค่าใช้จ่ายคงแพงจนร้องกรี๊ด แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้แพงจนจับต้องไม่ได้  โดยช่วงเวลาที่นิยมเดินทางที่สุด คือเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ จะมีอุณหภูมิต่ำสุด -19 องศาเซลเซียส  หนาวสมใจสำหรับคนที่โหยหาความเย็นจากไทยเลย ฮ่า ฮ่า  หรือถ้ากลัวว่าจะหนาวเกินไป ก็สามารถมาช่วงเดือนเมษายน ซึ่งก็ตรงกับช่วงวันหยุดยาวของไทยพอดี

          บริเวณโดยรอบนั้นสวยงาม มองเห็นความยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ สุดสายตาเห็นทิวเขา ธรรมชาติรายล้อม แต่ลองคิดดูว่าคุณยืนอยู่บนผืนน้ำทะเลสาบ มันช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะ ที่นี่อากาศจะเย็นจัด ความหนาวปกคลุม ทะเลสาบทั้งผืนจึงกลายเป็นน้ำแข็ง   

           จุดห้ามพลาดให้เห็นเป็นบุญตา คือภูเขาตั้งอยู่กลางทะเลสาบ มีพื้นน้ำแข็งหนาประมาณ 80-120 เซนติเมตร และอีกแห่งคือถ้ำน้ำแข็งเหมือนหินงอกหินย้อย เป็นงานศิลปะจากธรรมชาติที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำกัน เช่น  ขี่ม้า ขับรถแล่นผ่าน หรือเดินเล่นบนน้ำแข็งได้ไม่ต้องกลัวว่าจะละลายเลย

           

 

9.ตามล่าแสงเหนือที่มูรมานสก์ (Murmansk)

           แสงเหนือไม่ได้มีแค่ที่ยุโรป หรือสแกนดิเนเวียเท่านั้น รัสเซียก็มีนะ มาถึงทั้งทีก็เอาให้สุดในชีวิตกันไปเลย เดินทางมาตอนเหนือของรัสเซีย กับพิกัดเมืองมานสก์ แนะนำว่ามาช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม อากาศพีคสุด ๆ เลขเดียว เลขคู่ไม่มี มีแต่เลขติดลบ บอกคร่าว ๆ ก็ประมาณ -20 องศา เอง….เองงงง !               เมืองมูรมานสก์ เป็นเมืองเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนชอบทำกิจกรรมทางธรรมชาติ แต่การมาเที่ยวแบบนี้ขอแนะนำว่าต้องใช้ไกด์ท้องถิ่น หรือผู้เชี่ยวชาญในการพาเราไปชมแสงเหนือนะ เพราะด้วยอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ จุดพิกัดต่าง ๆ ต้องอาศัยความแม่นยำ และเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการเดินทางจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ในการไปจุดชมแสงเหนือ ที่สำคัญอาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะความหนาวเย็นสุดขั้ว

 

 

10.หมู่บ้านซามิ (Sami Village) 

            ใกล้ ๆ กับเมืองมูรมานสก์จะพบกับหมู่บ้านแสนน่ารักซามิ ให้อารมณ์เหมือนเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี ลองมาสัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในซามิ อย่างวัฒนธรรม การแต่งกายของชาวพื้นเมือง โดยตามประวัติแล้วสืบเชื้อสายมากจากแถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย และคาบสมุทรโคลา บรรยากาศโดยรอบที่หมู่บ้านแห่งนี้ ขาวโพลนเต็มไปด้วยหิมะที่ตกตลอด และปกคลุมตลอดทั้งปี และต้นไม้ที่ยังคงสวยงามตามแบบฉบับสมบูรณ์ตามท้องเรื่อง

       หมู่บ้านซามิยังมีกิจกรรมให้คุณทำมากมาย เช่น การแต่งกายตามพื้นเมือง รับประทานอาหารท้องถิ่น ดูฟาร์มกวางเรนเดียร์ หรือนั่งรถเลื่อนน้องกวางเรนเดียร์เพื่อชมธรรมชาติก็ยังได้ หรือจะนั่งรถเอวีลุยหิมะ เล่นกีฬาพื้นเมืองก็สนุกไปอีกแบบ

 

     เที่ยวรัสเซียคราวนี้หวังว่าจะได้หนาวถึงใจ และความสวยฉุดไม่อยู่ตลอดทั้งทริป แต่การจะไปเที่ยวรัสเซีย ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังเดินทางไปเที่ยวรัสเซียไม่ได้ อาจต้องรออีกสักหน่อย เพราะเขายังไม่มีแผนเปิดประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวเลย แต่สำหรับคนที่ต้องเดินทางเข้าประเทศเขาจริงๆ ต้องแสดงเอกสารผลตรวจ COVID-19 แบบ PCR ที่เป็นลบ ซึ่งออกภายใน 72 ชั่วโมง ตอนนี้ยังเที่ยวรัสเซียไม่ได้ เก็บเงินรอเอาไว้ก่อน เที่ยวได้เมื่อไรบินไปสัมผัสความหนาวกันที่รัสเซียได้เลย