บินใกล้ ๆ เปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน

Travel Story
19 เม.ย. 67
3,199
2

ห่างหายจากการเที่ยวต่างประเทศกันมานาน เพราะ โควิด-19  เป็นเหตุ เชื่อว่าทุกคนคงอัดอั้นอยากเที่ยวกันแล้ว ตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มผ่อนปรน และอนุญาตให้เดินทางได้บ้างแล้ว เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้เมื่อไรก็พร้อมบินได้เลย เริ่มทริปแรกกันด้วยประเทศใกล้ๆ อย่างสิงคโปร์ 3วัน2คืน เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ กันแล้ว

แต่ก่อนจะออกเดินทาง เช็ครายละเอียดกันสักนิด โดยผู้เดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ ต้องทำเรื่องขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศ สามารถสมัครขอใบอนุญาตการเดินทางทางอากาศล่วงหน้า 7-30 วันก่อนเดินทาง รายละเอียดอื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดได้จาก แอป Visit Singapore Travel Guide

 

มาเรื่องเที่ยวๆ กินๆ กันดีกว่า ใครยังไม่มีแพลน ไม่ต้องกังวล เพราะเราจัดให้เต็มอิ่มกันจุก ๆ 3 วัน 2 คืน เวลาไม่น้อยไม่มากจนเกินไป เที่ยวสิงคโปร์กำลังพอดี เที่ยวกรุบกริบไม่รีบร้อนเกินไป ถ้าคนชอบเน้นกิน ตามรอยร้านดัง ๆ แล้วละก็สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่มีร้านน่ารัก และอร่อยมากมาย มาเปิดแผนที่และเดินทางไปด้วยกันเลย 

ประเดิมวันแรก “เติมพลังมื้อหลักกันสักหน่อย”

ร้าน Boon Tong Kee ที่เราไปทานเป็นสาขา bendeermar

ขึ้นชื่อเรื่องไก่แล้ว เมนูอื่น ๆ ที่แนะนำคือ ผัดซอสเปรี้ยวหวานไก่ และแกงจืดสาหร่าย ภายในร้าน โต๊ะไม่เยอะมากนัก แต่การบริการเป็นเลิศ และเมนูเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดสั่งง่าย สบายหายห่วง

 

 

วันที่สอง “ลองใช้ชีวิต กินแบบคนสิงคโปร์หน่อย”

เริ่มต้นเบา ๆ ลองท้องกินง่ายๆ เพื่อเก็บแรงไว้ ร้าน McDonald's แต่จะมีความแตกต่างกับไทยในรสชาติไก่ และน้ำจิ้ม เมนูที่สั่ง คือฟิชเบอร์เกอร์และแพนเค้ก พร้อมกาแฟเย็นที่รสชาติเบาบางอีก 1 แก้ว สรุปโดยประมาณ 11 SDG 

เอาล่ะ เริ่มต้นตามหาร้านในแบบฉบับคนสิงคโปร์กัน ซึ่งร้านนี้เป็นที่กล่าวกันว่าเป็น  “ครัวซองค์ดีที่สุด” กินแล้วต้องฟินฝุด ๆ แน่นอน ซึ่งอยู่ในย่านฮิปสเตอร์

การเดินทาง ลง MRT Tiong Bahru แล้วเสิร์ชคำว่า Tiong Bahru Bakery ซึ่งจากสถานีเดินไปประมาณ 750 เมตร ชมวิวบรรยากาศไปพลาง ๆ ไม่นานก็ถึง ทางร้านแนะนำเมนู Plain Croissant Almond Croissant และสั่งเพิ่มอีกอย่างคือ Smoke Salmon เพิ่ม…สำหรับเมนูเครื่องดื่ม ถ้าชอบเข้ม ๆ ควรสั่งกาแฟร้อน หรือถ้าเป็นคนชอบกินกาแฟเย็น ให้สั่งกาแฟดับเบิลช็อต ใส่ไซรัปเพิ่ม เพราะคนที่ดื่มกาแฟเข้ม (คั่วระดับกลาง-เข้ม) จะรู้สึกว่าจืดมาก  

นอกจากนั้นพนักงานในร้าน  Recommend Plain Croissant สัมผัสได้กลิ่นหอมของขนมปังมาก ความเหนียวนุ่มของเนื้อแป้ง ความบางกรอบกำลังพอดี  ยิ่งทากับเนยเค็มยิ่งเข้ากัน เอาไปเลย 10 เต็ม ส่วนครัวซองต์อัลมอนด์กำลังดี มีรสสัมผัสต่างกันตรงที่มีถั่วเข้ามาเป็น Texture   

ส่วนลำดับสุดท้ายที่สั่งตามคนอื่น ให้ความรู้สึกเหมือนร้านทั่วไปที่ทำ Brunch ในประเทศไทย แต่คำที่สองเราเจอที่ทาขนมปัง ไว้ทานคู่กัน ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ส่วนขนมปังที่กินกับ Smoke salmon ทำมาจากแป้งชาร์โคล และสอดไส้ผักล็อคเกตรสชาติกลมกล่อม

พักท้องเดินเล่นกันสักหน่อย เพื่อย่อยเตรียมมื้อต่อไป จึงตัดสินใจมาเดินเล่นที่  Marina Bay Sand ช้อปปิ้งเพลิน ๆ กันก่อน และเดินข้ามไปที่ Garden By the Bay ขอบอกว่าโดมขายของหวานน้ำชา Afternoon Tea ที่นี่ ขนมหวานอร่อยมาก ๆ เพื่อน ๆ อย่าลืมมาลอง และดื่มด่ำบรรยากาศนะ แต่อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลย คือบักกุเต๋ ซึ่งบักกุเต๋เจ้านี้อยู่ชั้นฟู้ดคอร์ทของ Marina Bay Sand สามารถเดินบนทางเชื่อมชั้น 3 ของ Marina Bay Sand ไปถึง Garden By the Bay ได้  

เมนูที่สั่งใน 1 ชุด ประกอบไปด้วย ข้าว 1 ถ้วย บักกุเต๋ 1 ถ้วย ปาท่องโก๋ และเต้าหู้พร้อมถั่ว อีกอย่างละถ้วย น้ำจิ้มตักได้ตามใจชอบ ไม่แปลกใจเลยที่หลาย ๆ คนติดใจในรสชาติ ก็เพราะกลิ่นเครื่องเทศไม่แรง เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยค่อนข้างพอดีไม่เยอะจนเกินไป หมูติดกระดูก ที่เนื้อนุ่มละมุน อีกทั้งข้าวไม่แฉะ ไม่ร่วนไป น้ำจิ้มรสชาติพอดีไม่เปรี้ยวไม่เผ็ดมาก ที่สำคัญรสชาติคงที่ไม่มีเปลี่ยนไม่ว่าจะกินกี่ครั้งก็ตาม  

ส่วนคนที่ตามหาชานมไข่มุก ที่นี่มีร้านอร่อยเหมือนกันนะ รสชาติดีถูกใจยิ่งนัก ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านบักกูเต๋ อยู่บริเวณด้านหน้าฟู้ดคอร์ท ลงบันไดเลื่อนมาจะเจอเลย 

 

ไฮไลท์สำคัญของที่ Garden By the Bay คือการชมไฟสุดอลังการ ในแต่ละรอบจะนานประมาณ 10 นาที โดยประมาณ แนะนำว่าให้รีบไปจับจองพื้นที่กันก่อนสองทุ่มสัก 10 นาที เพื่อหามุมที่ดีที่สุดในการนอนดู ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูไฟที่นี่ 

เมื่อดูไฟจบ แต่ความหิวกำลังเริ่มอีกครั้ง ! ก่อนกลับเข้าที่พักก็หาอะไรใส่ท้องกันอีกสักรอบ เลยพากันไปที่ออร์ชาร์ด เพราะมีคนบอกว่าร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ Food Opera ห้าง ION Orchard ชั้น B4 อร่อยโฮกก… ไม่รอช้าขึ้น MRT สายสีแดงไปลง Orchard Station ลงไปชั้นใต้ดินก็พบกับร้าย Li Xin Teochew Fishball

คำแรกที่กินเข้าไป โอ้ยยย… เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย อร่อยลืมโลกไปเล้ยย! น้ำราดก๋วยเตี๋ยวเข้มข้นเข้ากับเส้นบะหมี่แบน ลูกชิ้นปลากัดเข้าไปรู้สึกเหมือนทำมาจากปลาล้วน แป้งน้อย น้ำซุปลงตัวมาก เอาไปเลย 10 ดาวไม่หักนะเออ…

อีกเมนูที่สั่งมาเพิ่มเรียกว่า “Cha Kway Teow” เขาใช้บะหมี่เส้นกลมผัดกับเส้นใหญ่ใส่กุนเชียง กุ้งแห้ง ฯลฯ ผัดรวมกัน รสชาติค่อนไปทางจืด และต้องกินกับซีอิ๋วถึงอร่อยลงตัว แนะนำว่าให้กิน Food Court Center นอกห้างอร่อยกว่า



วันที่สามก่อนกลับบ้าน  “เดินไปกินไป”

วันสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด ภารกิจหลักของเราเช้านี้ คือกินติ่มซำ ชื่อร้าน SWEE CHOON สไตล์ร้านมีความล้ำผสมกลิ่นอายสไตล์จีน สั่งมาละนิดละหน่อย หอมปาก หอมคอ 

ไปกันต่อกับร้านข้าวมันไก่ชื่อดังที่ ศูนย์อาหาร Maxwell Food Center ร้าน Tian Tian Chicken Rice   การเดินทาง  ลงที่สถานี Chinatown ออก Exit A หันหน้าเข้าพระเขี้ยวแก้ววัดเดินไปทางซ้าย และข้ามถนนเดินไปประมาณ 200 เมตรจะเจอศูนย์อาหาร Maxwell Food Center อร่อยสมที่ได้รับรางวัล และลงนิตยสารมากมายขอบอกสักนิด ให้ทุกคนพกช้อนพลาสติกแข็งไปเอง เพราะช้อนของที่ร้านอ่อนแอมาก ไม่สามารถหั่นไก่ให้ขาดได้ ดังนั้นนี่เป็นคำเตือน! 

…แต่เท่านี้ยังไม่พอ เพราะเรายังกินได้อีก เราเจอร้านลับ ๆ ชาบูหมาล่า ซึ่งร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระเขี้ยวแก้ว เดินข้ามฝั่ง และเลยมาหนึ่งไฟแดง ร้านอยู่ซ้ายมือ แค่เห็นคนในร้านเยอะ มั่นใจว่าอร่อยแน่ ไม่รอช้าพุ่งตัวเข้าไปสั่งอาหารทันที สั่งน้ำซุปหมาล่าครึ่งหม้อ แบบออริจินัลครึ่งหม้อ ขอเตือนก่อนว่าที่นี้คิดราคาอาหารเป็นถาด และเป็นไม้ ไม่ใช่ราคาต่อหัว ดังนั้นอย่าให้ความหิวมาบังตา เพราะแต่ละอย่างราคาไม่เท่ากัน ที่แพงสุดหนีไม่พ้นเนื้อ เราลองหยิบมาชิมอย่างละไม้ก่อน สุดท้ายตัดสินใจกินเป็นถาดคุ้มกว่า เพราะถ้าสั่งเป็นไม้ อย่างต่ำราคา 0.50  SGD ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สงครามการกินชาบูจบลงด้วยน้ำตาเบา ๆ มื้อนี้พันกว่าบาท แต่เอาน่า…ไม่ลองไม่รู้  

 

 

สำหรับใครที่กำลังมองหา สถานที่กิน เที่ยว และไม่ไกลจากไทย สิงคโปร์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว จะกิน จะช้อปปิ้ง ก็ตอบโจทย์ได้ทุกอย่างแน่นอน