HAPPY WINTER IN CZECHIA
เช็กเกีย (Czechia) หรือสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) เป็นประเทศที่สวยงาม โรแมนติก และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ไปเที่ยวฤดูไหนก็สวย ฤดูหนาวอากาศหนาวก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นเข้ากระดูก แต่งตัวสวยๆ ไปเดินเที่ยวได้ชิลล์ๆ
กรุงปราก (Prague) เมืองหลวง ตั้งอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) และได้ชื่อว่าเป็นเมืองร้อยยอดหลังคา (The City of a Hundred Spires) จากโบสถ์ วิหาร ตึกรามที่มีหลังคายอดแหลม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคอาณาจักรโบฮีเมียช่วงยุคกลางจนถึงช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1
ฝั่งหนึ่งของแม่น้ำวัลตาวาเป็นเขตเมืองเก่า มีจัตุรัสกลางเมืองและถนนปูหินที่เป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ ซึ่งกลายเป็นย่านช้อปปิ้งไปหมดแล้ว อีกฝั่งเรียกง่ายๆ ว่าฝั่งปราสาท มีปราสาทปราก (Prague Castle) โดดเด่นอยู่บนเขา เมืองเบื้องล่างนั้นเก่าแก่ไม่แพ้ฝั่งเมืองเก่าเหมือนกัน โดยเฉพาะบริเวณใกล้สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานหินที่สร้างมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันเป็นสะพานคนเดินที่อนุญาตให้ขึ้นไปตั้งโต๊ะขายงานคราฟต์และเล่นดนตรีเปิดหมวกได้
อีกจุดหนึ่งในปรากฝั่งเมืองเก่าซึ่งไม่ควรพลาด คือนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ติดตั้งอยู่ที่ศาลาว่าการเมืองหลังเก่าตั้งแต่ ค.ศ. 1410 ปัจจุบันยังใช้งานได้อยู่
เชสกี ครุมลอฟ (Český Krumlov) เป็นเมืองอันดับ 2 ของเช็กเกียที่ควรแวะไปเยือน ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ใกล้กับประเทศออสเตรีย สามารถเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้ มีรถไฟและรถบัสจากปรากไปถึง ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง เมืองนี้เป็นเมืองจากยุคกลาง มีปราสาทบนเนินเขา ถนนปูก้อนหิน และสถาปัตยกรรมปะปนตั้งแต่ยุคกอทิกจนถึงเรอแนซ็องส์ที่รักษาไว้อย่างดี จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1992
ทางฝั่งตะวันตกของเช็กเกียมีเมืองสปาที่ขึ้นชื่อและน่าไปเยือน เพื่อไปชมบรรยากาศแบบ Good Old Days ด้วยเมืองเหล่านี้เป็นรีสอร์ตยอดฮิตที่คนในวงสังคมชั้นสูงของยุโรปช่วงศตวรรษที่ 18-20 ต้องมาพักผ่อนและรักษาสุขภาพ
เมืองสปาที่ใหญ่ที่สุดและยังคงเป็นที่นิยมที่สุดของเช็กเกีย คือคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) ที่นี่มีโรงแรมชั้นหนึ่งที่มีสปาแบบครบวงจรอยู่หลายแห่ง กลางเมืองโดยเฉพาะ 2 ฝั่งแม่น้ำมีร้านค้า คาเฟ และร้านอาหารเก๋ๆ มากมาย จากปรากใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมง ไปกลับภายในวันเดียวได้ แต่ถ้าสนใจโปรแกรมสปาด้วย ควรค้างที่นี่สักคืน
เมืองสปาที่อยู่ใกล้ๆ กันอีกเมืองหนึ่ง คือมาเรียนสเก ลาสเน (Mariánské Lázně) เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของ The Great Spa Towns of Europe ซึ่งรวม 11 เมืองสปาสำคัญในยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ค.ศ. 2021 นอกจากมีอาคารสวยๆ ให้ชมแล้ว ที่นี่ยังมีสวนสาธารณะที่มีทางเดินยาว ซึ่งเซเลบสมัยก่อนจะแต่งตัวสวยหล่อมาเดินเข้าสังคมกัน ปัจจุบันยังคงเป็นจุดเช็กอินถ่ายรูปได้สวยทีเดียว
สีสันและบรรยากาศของเช็กเกียในหน้าหนาวอาจไม่เหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน แต่ฉันว่าได้อารมณ์ที่คลาสสิกไปอีกแบบ ซึ่งคนมีคู่บอกว่าแบบนี้โรแมนติกมาก ส่วนคนที่มักเดินทางคนเดียว ทริปนี้คงต้องชวนเพื่อนร่วมทางไปด้วยแล้ว จะได้ไม่เหงาจนเกินไป
Photo Credit: Anyama
กรุงปราก เมืองหลวงของเช็กเกีย ได้ชื่อว่าเป็นเมืองร้อยยอดหลังคา จากโบสถ์ วิหาร และตึกรามที่มีหลังคายอดแหลม ในภาพที่เห็นนี้ คือหลังคาและหอคอยของฝั่งเมืองเก่าปราก
ฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกเร็ว ภาพเมืองเก่าปรากนี้บันทึกตอนราวๆ 4 โมงเย็น ซึ่งพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว
ถนนหนทางและอาคารบ้านเรือนในตัวเมืองปราก หนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าสวยและโรแมนติกที่สุดของยุโรป
เรือล่องแม่น้ำวัลตาวาเปิดให้บริการทุกฤดู
ฝั่งปราสาทปราก เมื่อมองจากด้านฝั่งเมืองเก่า
สะพานชาร์ลส์ สะพานที่โด่งดังและโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป สร้างมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 14 โดยบัญชาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย ปลายสะพานทั้งสองฝั่งมีหอคอย ตัวสะพานยาว 516 เมตร กว้าง 10 เมตร ถ้าเดินไปกลับจะเป็นระยะทางราว 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว จุดเด่นของสะพานชาร์ลส์ คือรูปปั้นนักบุญต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนราวสะพานทั้ง 2 ด้าน กว่า 30 รูป สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1683-1714 แต่หลังจากตั้งตากแดดตากลมมาร่วม 200 ปี ในปี ค.ศ. 1965 ก็ได้มีการทำรูปจำลองมาตั้งแทนที่ของเดิมซึ่งนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สะพานชาร์ลส์เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเพียงสะพานเดียวของปรากจนถึงปี ค.ศ. 1841 ปัจจุบันเป็นสะพานเฉพาะคนเดินเท่านั้น นักท่องเที่ยวคลาคล่ำทั้งวัน
ปราสาทปราก เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งโบฮีเมียในยุคกลาง ภายหลังจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซาแห่งจักรวรรดิออสเตรียที่เข้าครองดินแดนแถบนี้ โปรดให้สร้างหมู่อาคารเพิ่มเติมจนใหญ่โตอย่างที่เห็น ขณะนี้ส่วนหนึ่งใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีของเช็กเกีย และเป็นคอมเพล็กซ์ของปราสาทยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังคงเหลืออยู่และใช้งานได้
ภายในมหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral) ที่งดงามมาก ตัวมหาวิหารตั้งอยู่ที่ปราสาทปราก สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
(ภาพซ้าย) ศูนย์กลางกรุงปรากที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะไป คือลานหน้าหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สร้างมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 15 ซึ่งนอกจากจะไปชมนาฬิกาแล้ว ยังสามารถขึ้นหอคอยไปชมวิวเมืองเก่าได้ด้วย
(ภาพขวา) นาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากบอกเวลาแล้ว ยังมีรายละเอียดเรื่องดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และอื่นๆ อีกด้วย
ถนนช้อปปิ้งในเขตเมืองเก่าปราก
ปราสาทเชสกี ครุมลอฟ (Český Krumlov Castle) ตั้งอยู่บนเนินเขาจุดสูงสุดของเมือง
หอคอยของปราสาทประจำเมือง กับหอคอยของโบสถ์เซนต์จอสต์ (St. Jost Church) 2 จุดเด่นของเมืองมรดกโลก เชสกี ครุมลอฟ
อาคารภายในปราสาทเชสกี ครุมลอฟ
วิวทิวทัศน์เมืองเชสกี ครุมลอฟ เมื่อมองจากปราสาทเชสกี ครุมลอฟ จะเห็นแม่น้ำวัลตาวาโอบล้อมเมือง
ถนนปูด้วยก้อนหินในเมืองเชสกี ครุมลอฟ
ร้านค้าในย่านเมืองเก่าของเมืองมรดกโลก เชสกี ครุมลอฟ
รถม้าสำหรับนั่งชมเมืองคาร์โลวี วารี เมืองสปาที่ใหญ่ที่สุดและยังคงเป็นที่นิยมที่สุดของเช็กเกีย
แม่น้ำเทปลา (Teplá River) ไหลผ่านเมืองคาร์โลวี วารี
แม่น้ำเทปลา (Teplá River) ไหลผ่านเมืองคาร์โลวี วารี
ตามเมืองสปาต่างๆ ในเช็กเกียจะมีอาคารแบบมีเสาค้ำเรียงราย (The Colonnade) ซึ่งสร้างคร่อมตาน้ำแร่และทำเป็นน้ำพุสวยงามให้คนมารองน้ำแร่ไปดื่ม หรืออาจต่อท่อมาจากแหล่งน้ำผุดใกล้เคียง ในยุครุ่งเรือง ผู้คนจะแต่งตัวสวยมาเดินไปเดินมาเพื่อออกกำลังกายและจิบน้ำแร่ไปพลางๆ ในภาพนี้ คืออาคารมิลล์ โคลอนเนด (Mill Colonnade) ในเมืองคาร์โลวี วารี ที่สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ ที่นี่มีน้ำพุน้ำแร่ต่างๆ ต่อท่อมาให้ทุกคนได้รองดื่มด้วย
ใครๆ ก็สามารถถือถ้วยหรือแก้วมารองน้ำแร่ดื่มได้ฟรี
อาคารบ้านเรือนในเมืองคาร์โลวี วารี เมืองสปา-น้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเช็กเกีย
อาคารโคลอนเนดของเมืองมาเรียนสเก ลาสเน สร้างแบบนีโอบาโรก เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมืองมาเรียนสเก ลาสเน ใช้เหล็กหล่อเป็นโครงสร้างภายใน มักเรียกอาคารนี้กันว่า แม็กซิม กอร์กี โคลอนเนด ตามชื่อนักประพันธ์ชาวรัสเซียซึ่งมาเยือนที่นี่บ่อยๆ
สวนสาธารณะในเมืองมาเรียนสเก ลาสเน
เรื่อง : นิศารัตน์ / ภาพ : Anyama