How to Onsen เที่ยวให้ ‘ถึง’ ญี่ปุ่น

Travel Stories
18 ม.ค. 67
992
0

มีคำกล่าวกันว่า ถ้าไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ไป “อาบน้ำแร่ แช่ออนเซน” ก็นับว่าไปไม่ถึงญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นนั้นมีออนเซน (Onsen) อยู่ทั่วประเทศ ทั้งแบบสาธารณะ และแบบส่วนตัวในเรียวกังออนเซนหรือโรงแรมแบบญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าพัก
 
ออนเซน มีความหมายว่า “ที่แช่น้ำแร่-น้ำพุร้อนธรรมชาติ” อยู่ในเขตใกล้ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ น้ำในจุดที่ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติมักมีอุณหภูมิสูงมาก ต้องใช้การต่อท่อจากแหล่งน้ำไปยังห้องอาบน้ำในเรียวกังที่พัก หรือที่อาบน้ำสาธารณะ (Sento) การอาบน้ำแร่ แช่น้ำพุร้อนนั้นเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แร่ธาตุที่อยู่ในน้ำอาจช่วยรักษาโรคบางอย่างได้ ทำให้โลหิตไหลเวียนดี และช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าอีกด้วย
 
เรียวกังออนเซน นอกจากจะให้บริการห้องอาบน้ำแร่แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้พักในห้องพักปูเสื่อทาทามิ นอนบนที่นอนแบบฟูกฟุตง (Futon) ได้ใส่กิโมโนหรือยูกาตะเดินเล่น และรับประทานอาหารญี่ปุ่นมื้อเช้ามื้อเย็นที่มีอาหารจานเด็ดจากท้องถิ่นให้เลือกในแบบบุฟเฟต์ หรือดินเนอร์อย่างหรูเสิร์ฟเต็มพิธีการที่เรียกว่าอาหารไคเซกิ (Kaiseki)
 
   
 
เลือกออนเซน
 
มีโรงแรมแบบเรียวกังออนเซนมากมายทั่วญี่ปุ่น ตั้งแต่เหนือสุดเกาะฮอกไกโดจนใต้สุดเกาะชิโกกุ ในระดับราคาสูงอาจมีบ่อหรือถังไม้ส่วนตัวให้แช่ในห้อง (Ofuro) สำหรับคนที่ยังเขินอายที่จะเปลื้องผ้าให้ใครเห็น หรือไม่อยากแช่น้ำร่วมกับใคร และเมืองออนเซนส่วนใหญ่ก็มีเซนโตหรือที่อาบน้ำสาธารณะและออนเซนให้เข้าใช้บริการ นักท่องเที่ยวจึงมีทางเลือกที่จะพักโรงแรมซึ่งไม่มีออนเซนที่ราคาย่อมเยากว่ามาก แล้วมาเข้าออนเซนสาธารณะเพื่อสัมผัสประสบการณ์ได้
 
เมืองออนเซนที่มีชื่อเสียง เช่น เกโระ (Gero) ใกล้ๆ นาโงย่า เป็นเมืองออนเซนเก่าแก่บนเกาะฮอนชู, คิโนะซากิ (Kinosaki) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดเฮียวโงะแห่งภูมิภาคคันไซ ที่มีออนเซนสาธารณะถึง 7 แห่งให้เก็บแต้ม, เมืองเบปปุ (Beppu) เมืองชายทะเลมีสปารีสอร์ตและออนเซนนับพันแห่ง, กินซัน (Ginzan) เมืองออนเซนในจังหวัดยามากาตะที่สวยงามสุดๆ ในช่วงหน้าหนาว และโนโบริเบตสึ (Noboribetsu) บนเกาะฮอกไกโดที่อยู่ริมทะเลสาบโทย่า และมีสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ มากมาย ซึ่งล้วนน่าสนใจ
 

เข้าออนเซน

ที่เรียวกังออนเซน เมื่อเข้าพักจะพบผ้าขนหนูผืนบางแคบๆ และยาววางเตรียมไว้ให้ในห้อง พร้อมถุงหิ้วพลาสติกที่มีของใช้ส่วนตัว อย่างหวี ที่มัดผม แปรงสีฟัน ฯลฯ สำหรับให้นำไปใช้ในออนเซน เมื่อจะไปออนเซน ควรเปลี่ยนไปใส่ชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ ใส่แต่ชุดชั้นในและใส่รองเท้าแตะที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้เช่นกัน

โดยทั่วไป ออนเซนในเรียวกังและแบบสาธารณะจะแยกห้องชายหญิง ห้องสำหรับชายห้อยผ้าม่านโนเรนสีน้ำเงิน เขียว หรือดำไว้หน้าห้อง ส่วนห้องสำหรับหญิงห้อยผ้าม่านสีแดง ชมพู หรือส้ม ควรสังเกตผ้าห้อยนี้ให้ดี เพราะทางเรียวกังอาจจะสลับห้องในช่วงเช้า-เย็น เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ประสบการณ์ออนเซนอย่างครบถ้วน เพราะแต่ละห้องอาจดีไซน์ต่างกัน บ่อน้ำร้อนไม่เหมือนกัน เป็นต้น

ภายในออนเซน

เมื่อเข้าไปในออนเซน จะเจอห้องแต่งตัวซึ่งมีตะกร้าวางอยู่บนชั้น ไว้ใช้ใส่ของและยูกาตะที่ปลดเปลื้องออกจากตัว เมื่อถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว ให้ใส่ไว้ในตะกร้าและใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ปิดไว้ บางแห่งอาจมีผ้าเช็ดตัวให้ บางแห่งอาจต้องนำผ้าเช็ดตัวลงมาจากห้องพักด้วย จากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำรวมโดยจะเดินตัวเปล่าไปเลยก็ได้ หรือใช้ผ้าขนหนูผืนแคบๆ ยาวๆ ที่มีอยู่ ปิดด้านหน้าลำตัวแก้เขินกันไป ผ้าขนหนูบางๆ นี้ที่จริงแล้วมีไว้ใช้ถูตัวตอนอาบน้ำ ซับเหงื่อ โพกผม ตอนแช่น้ำร้อน คนญี่ปุ่นจะไม่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เข้าไปในห้องอาบน้ำรวมที่มีบ่อน้ำร้อน เพราะไม่มีที่วาง และผ้าจะเปียกชื้นจากไอน้ำที่เกิดขึ้นในห้องนั้น

ห้องอาบน้ำรวมจะมีฝักบัวติดผนังเรียงไว้เป็นแถว สิ่งที่สำคัญคือ ต้องนั่งอาบโดยใช้เก้าอี้เตี้ยๆ ที่มีไว้ให้ ไม่ยืนอาบ เพราะละอองน้ำอาจกระเด็นไปโดนคนอื่น ตรงนี้จะมีเจลอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผมอย่างดีไว้ให้ใช้ อาบน้ำสะอาดดีแล้ว ก็เดินตัวเปล่าไปค่อยๆ หย่อนตัวลงในบ่อน้ำแร่ร้อนได้เลย แต่อย่าผลีผลามหรืออย่ากระโดดลงไปทันทีทั้งตัว ต้องเช็กอุณหภูมิของน้ำและรอให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อนเสมอ โดยทั่วไปอุณหภูมิน้ำจะอยู่ที่ 38-42 องศาเซลเซียส

อาบน้ำบ่อไหน

ออนเซนตามเรียวกังใหญ่ๆ มักมีบ่อน้ำแร่ร้อนหลายบ่อ ซึ่งมีอุณหภูมิต่างๆ กัน ทั้งยังมีบ่อน้ำแร่กลางแจ้ง (Rotenburo) ที่อยู่ในแลนด์สเคปสวยงาม ซึ่งจะให้ความ “ฟิน” มากเป็นพิเศษ เมื่อไปแช่น้ำร้อนอยู่กลางแจ้งแล้วมีหิมะตกโปรยลงมารอบตัว

เรียวกังออนเซนหลายแห่งที่เป็นเรียวกังคลาสสิกเก่าแก่ มักจะมีบ่อออนเซนโบราณทำจากไม้ฮิโนกิตั้งอยู่กลางแจ้ง หรือมีบ่อออนเซนธรรมชาติอยู่กลางแจ้งข้างลำธารและเป็นบ่อรวม ไม่แยกชายหญิง หรืออาจให้ชายหญิงแบ่งเวลาการเข้าใช้ จึงควรสอบถามข้อมูลให้ชัดเจนก่อน ถ้าจะไปลองใช้

   

ข้อควรคิด

1. ออนเซนส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีรอยสักขนาดใหญ่เข้าใช้บริการ แต่ผู้ที่มีรอยสักเล็กๆ อาจใช้สติกเกอร์สีเนื้อปิดรอยสักได้
2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ความดันสูง โรคหลอดเลือด หรือสตรีมีครรภ์ รวมทั้งผู้ที่ดื่มของมึนเมามา ควรแช่ออนเซนอย่างระมัดระวัง คนทั่วไปที่ไม่คุ้นชิน ควรแช่ออนเซนเป็นเวลาสั้นๆ แล้วขึ้นมาปรับอุณหภูมิร่างกายด้วยน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่าในบ่อน้ำร้อนเป็นระยะ
3. ถอดเครื่องประดับที่ทำจากโลหะทุกประเภทก่อนลงแช่บ่อน้ำแร่ร้อน 
4. อย่าถูหรือขัดตัวในบ่อน้ำร้อน รวมทั้งไม่ตีน้ำ เล่นน้ำ หรือลอยตัวเล่น ให้ลงไปแช่ตัวได้เท่านั้น 
5. เด็กสามารถเข้าออนเซนกับผู้ปกครองต่างเพศได้จนถึงอายุ 6 ขวบ (บางจังหวัดอาจอนุญาตให้ถึง 9 ขวบ) ควรสอบถามให้ดีก่อนเช่นกัน
6. ดื่มน้ำหลังแช่ออนเซนเสร็จ เพราะร่างกายอาจขาดน้ำจากเหงื่อที่ออกไปโดยไม่รู้ตัว

ออนเซนเสร็จแล้ว

โดยทั่วไปเมื่อขึ้นจากบ่อน้ำร้อน อาจซับตัวเล็กน้อยแล้วเข้าไปแต่งตัวได้เลย ในห้องแต่งตัวจะมีเครื่องเป่าผม หวี โลชั่นทาตัว ฯลฯ ไว้ให้ใช้ 

แต่ออนเซนบางที่ น้ำแร่ในบ่อเข้มข้นและกลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรง ก็อาจล้างตัวด้วยน้ำเปล่าสักหน่อย เสร็จแล้วอย่าลืมทำความสะอาดอ่างไม้และเก้าอี้ตรงฝักบัวที่ใช้ และเลื่อนเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยด้วย

ออนเซนในเรียวกังใหญ่ มักมีเก้าอี้พักผ่อน เครื่องดื่ม หรือไอศกรีมให้หยิบรับประทานได้ฟรีในห้องรีแลกซ์ที่อยู่ด้านนอกของออนเซน หรือระเบียงชมวิวที่อยู่ใกล้ๆ อย่าพลาดไปใช้บริการ

เรื่อง : นิศารัตน์ ภาพ : นิศารัตน์