PARiS 2024 The Unique Experience Together

Travel Stories
9 ก.ค. 67
3,687
0

26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม ศกนี้ ที่ปารีสจะมีงานใหญ่แบบ 4 ปีจัดครั้ง นั่นคือมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แข่งกีฬามากประเภทที่สุด และมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดด้วย

กีฬาโอลิมปิกจัดขึ้นครั้งแรกระหว่างศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศตวรรษที่ 4 และหยุดไปเมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมอำนาจ จนกระทั่งได้รับการรื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งใน ค.ศ. 1896 เรียกกันว่าเป็น “โอลิมปิกสมัยใหม่” ที่การแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ แตกต่างไปจากยุคโบราณมาก มีเพียงการแข่งวิ่งมาราธอนเท่านั้นที่ได้รับการรักษาไว้เป็นธรรมเนียมและสัญลักษณ์ของโอลิมปิก

สำหรับปารีสนั้นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกมา 2 ครั้งแล้ว คือใน ค.ศ. 1900 และ 1924 ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งห่างจากครั้งก่อนถึง 100 ปี แน่นอนว่าชาวปารีส (และชาวฝรั่งเศส) ต่างตื่นเต้นกับงานนี้ และปารีสเกือบทั้งเมืองก็ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามกีฬา และจะมีบรรยากาศของโอลิมปิกอยู่ทุกที่

แม่น้ำแซน (Seine) กลางกรุงปารีส จะกลายเป็นสถานที่จัดพิธีเปิด ทัพนักกีฬาแต่ละชาติจะเคลื่อนขบวนมาในเรือล่องแม่น้ำ โดยมีผู้ชมเฝ้าติดตามอยู่บนอัฒจันทร์ 2 ฟากฝั่ง

หอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ของปารีส ยังคงขึ้นชมได้ตามปกติ รวมถึงดินเนอร์สุดโรแมนติกบนนั้นได้เช่นเคย แต่ด้านล่างไม่ไกลจากฐานของหอไอเฟลจะเป็นสนามแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดที่มีแบ็กกราวนด์สวยที่สุดแห่งหนึ่ง

ส่วนลานหน้าโอเต็ล เดอ วิลล์ (Hôtel de Ville) หรือศาลาว่าการเมือง ที่ตามปกติในช่วงหน้าร้อนจะนำทรายมาลงเพื่อทำสนามวอลเลย์บอลให้ชาวเมืองได้มาสนุกสนานกัน คราวนี้จะกลายเป็นจุดสตาร์ตของการแข่งขันวิ่งมาราธอน ประเภทกีฬาที่สำคัญที่สุดของโอลิมปิก

ปลาส เดอ ลา กองกอร์ด (Place de la Concorde) ลานขนาดใหญ่กลางเมืองที่สมัยก่อนเป็นสถานที่ชุมนุมในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จะกลายเป็นสนามแข่งขันเอกซ์ตรีมสปอร์ตและกีฬาแนวใหม่ ในขณะที่สนามใหญ่ด้านหน้าแองวาลิด (Invalides) ที่ฝังพระศพนโปเลียน จะเป็นสนามแข่งขันยิงธนู และสนามแข่งขันกีฬาที่น่าจะงดงามที่สุดอีกสนามหนึ่ง คือสนามแข่งม้า ซึ่งจะจัดขึ้นในเขตพระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) ใกล้ๆ กรุงปารีส

ปารีสในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน การเดินและการใช้พาหนะสาธารณะอย่างรถไฟใต้ดินจึงเป็นหนทางที่สะดวกที่สุด ขณะเดียวกัน แสงแดดจ้าของฤดูร้อนก็อาจทำให้การเลือกเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre), พิพิธภัณฑ์ดอร์เซย์ (Musée d’Orsay) หรืออาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น โรงละครโอเปรา ปาเลส์ การ์นิเยร์ (Palais Garnier) เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับช่วงบ่าย ก่อนจะไปปิดท้ายด้วยขนมหรืออาหารสไตล์ฝรั่งเศสในคาเฟเก๋ๆ ที่มีอยู่มากมาย ถือเป็นการจบวันอันแสนเพลิดเพลินตามวิถีปาริเซียงที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

และถ้าคุณพร้อม เราไปเที่ยว PARiS 2024 เก็บเกี่ยวประสบการณ์หนึ่งเดียวในโลกนี้ด้วยกันเลยค่ะ

The Seine

วันที่ 26 กรกฎาคม ศกนี้ แม่น้ำแซน (Seine) กลางกรุงปารีส จะกลายเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 2024

Tour Eiffel

หอไอเฟล (Tour Eiffel) เป็นสัญลักษณ์ของทั้งกรุงปารีสและประเทศฝรั่งเศส มีความสูง 330 เมตร ออกแบบและสร้างโดยกุสตาฟ ไอเฟล เปิดให้ชมมาตั้งแต่ ค.ศ. 1889 โดยเป็นส่วนหนึ่งของงานเวิลด์แฟร์ในปีนั้น ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1991

ช่วง PARiS 2024 หอไอเฟลให้ขึ้นชมได้ตามปกติ รวมถึงดินเนอร์สุดโรแมนติกบนนั้นได้เช่นเคย และพื้นที่ไม่ไกลจากหอไอเฟลจะกลายเป็นสนามแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดด้วย

Hôtel de Ville

บริเวณลานด้านหน้าโอเต็ล เดอ วิลล์ (Hôtel de Ville) หรือศาลาว่าการเมือง จะใช้เป็นจุดสตาร์ตการแข่งขันวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกครั้งนี้

Hôtel de Ville

อาคารศาลาว่าการเมืองประดับโลโก้ PARiS 2024 ในยามค่ำ

Rendering of the Seine

ภาพจำลองพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แม่น้ำแซน (Seine) ขบวนพาเหรดนักกีฬาแต่ละชาติล่องเรือมาตามสายน้ำ โดยริมสองฝั่งแม่น้ำมีผู้ชมเรียงรายรอชมอยู่

Photo Credit : https://olympics.com/

Rendering of Beach Volley Eiffel

ภาพจำลองสนามแข่งวอลเลย์บอลชายหาด ใกล้ๆ หอไอเฟล (Tour Eiffel)

Photo Credit : https://olympics.com/

Tennis Roland-Garros

ภาพจำลองการแข่งเทนนิสโอลิมปิก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องแข่งขันกันที่โรลังด์ การ์รอส (Roland-Garros) บ้านของการแข่งขันเฟรนช์โอเพน

Photo Credit : https://olympics.com/ 

Mascot

ฟรีจิส (Phryges) มาสคอตประจำการแข่งขันโอลิมปิก 2024 มีต้นแบบมาจากหมวกฟรีเจียนสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพสำหรับชาวฝรั่งเศส

Souvenir

โอลิมปิก 4 ปีมีครั้ง และยังไม่เวียนมาซ้ำได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้ามาถึงปารีสในช่วงนี้ ต้องไม่พลาดการซื้อของที่ระลึกโอลิมปิก 2024 กันไว้

Musée du Louvre

ลูฟวร์ (Musée du Louvre) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเมื่อมาถึงปารีสแล้ว แม้ “ไม่อิน” กับมิวเซียมสักเท่าไหร่ ก็ยังต้องมาเห็นโมนาลิซา มาดูวีนัส และมาชมความยิ่งใหญ่ของภาพวาด The Coronation of Napoleon ที่มีเรื่องราวในรูปมากมายจนยืนดูได้เป็นชั่วโมง

Musée du Louvre

นอกจากภาพวาดและประติมากรรมจากสมัยโบราณจนถึงศตวรรษที่ 18 แล้ว ลูฟวร์ยังมีเครื่องทอง มงกุฎ เพชรพลอย และของมีค่าอีกมากมายของฝรั่งเศสเองให้ชมด้วย ไม่ได้สูญหายไปหมดอย่างที่เล่าลือกัน

Musée d’Orsay

พิพิธภัณฑ์ดอร์เซย์ (Musée d’Orsay) จัดแสดงงานศิลปะตะวันตกตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ซึ่งตรงกับสมัยอิมเพรสชันนิสม์นั่นเอง โดยดัดแปลงมาจากอาคารสถานีรถไฟเก่าที่ไม่ใช้งานแล้ว จึงยังมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างของสถานีรถไฟอยู่ เช่น โครงหลังคา และนาฬิกาเรือนใหญ่ ที่นี่มีผลงานของศิลปินบิ๊กเนมที่ทุกคนรู้จักดี ไม่ว่าจะเป็น Picasso, Van Gogh, Monet, Renoir, Degas ฯลฯ

นอกจากภาพวาดและงานประติมากรรมแล้ว จุดที่ทุกคนต้องไปเช็กอินในพิพิธภัณฑ์ดอร์เซย์ (Musée d’Orsay) คือที่นาฬิกาเรือนใหญ่ ตรง Café Campana บนชั้น 5 ของพิพิธภัณฑ์

Centre Pompidou

อาคารปอมปิดูเซนเตอร์ (Centre Pompidou) ที่ยังดูทันสมัย แม้จะสร้างมาเกือบ 50 ปีแล้ว ออกแบบโดยใช้ไอเดียในการนำท่อเซอร์วิสต่างๆ มาไว้นอกตึก เพื่อให้ด้านในเป็นพื้นที่เปิดโล่งสำหรับแสดงงานศิลปะยุคใหม่และนิทรรศการต่างๆ

Palais Garnier

แม้ The Phantom of the Opera เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น แต่หลายคนก็เชื่อว่ามี “ปีศาจ” สิงอยู่ในโรงละครโอเปราจริงๆ และโรงละครนั้นก็คือ ปาเลส์ การ์นิเยร์ (Palais Garnier) กลางกรุงปารีสแห่งนี้

Palais Garnier

ในช่วงกลางวันและช่วงที่ไม่มีการแสดง ปาเลส์ การ์นิเยร์ (Palais Garnier) จะเปิดให้เข้าชมภายในโรงละครที่ตกแต่งสวยงามอลังการมาก ควรจองเข้าชมล่วงหน้าเพื่อเช็กวันที่เปิดเข้าชมให้แน่นอน

Sainte-Chapelle

แซงต์ ชาแปล (Sainte-Chapelle) วิหารหลวงของพระราชวังเก่า ใกล้ๆ ลา กงแซร์เฌอรี (La Conciergerie) โดดเด่นที่กระจกสีซึ่งประดับอยู่บนผนังวิหาร เมื่อแสงอาทิตย์ส่องลอดมาจะงดงามมาก

Arc de Triomphe

ประตูชัย (Arc de Triomphe) ตั้งอยู่กลางปลาส ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Place Charles de Gaulle) ที่มีรัศมีเป็นถนน 12 แฉก จึงเรียกอีกชื่อว่า Étoile ที่แปลว่าดาว ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้กล้าที่สละชีวิตในสงครามยุคนโปเลียน

Arc de Triomphe

วิวทิวทัศน์เมืองปารีสเมื่อมองจากชั้นดาดฟ้าของประตูชัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมได้

Café in Paris

การนั่งจิบกาแฟหน้าคาเฟริมทางเท้า คอยมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา คือวิถีปาริเซียง อย่างแท้จริง

Café Saint-Régis

คาเฟ แซงต์เรจิส (Café Saint-Régis) เป็นคาเฟที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของปารีส อยู่ในย่านเมืองเก่าของอิล แซงต์หลุยส์ (Île Saint-Louis) ถ้าแต่งตัวเก๋ๆ แนววินเทจไปนั่งรับประทานอาหารจะได้บรรยากาศมาก

Ladurée

แม้มาการงจะไม่ฮิตระเบิดเท่าเมื่อหลายปีก่อน แต่ลาดูเร (Ladurée) ที่ปารีสก็ยังดึงดูดใจคนรักขนมหวานให้ไปเข้าแถวซื้อได้เสมอ

13eme

เขต 13 เป็นย่านที่อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซน เป็นชุมชนที่มีชาวเอเชียอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงมีร้านอาหารจีนและร้านอาหารเวียดนามอร่อยๆ อยู่หลายร้าน และมีโรงแรมที่พักแบบราคากำลังดีด้วย

Photo Credit : Paris Je t’aime

Giverny

ถ้ามีเวลาพอจะออกไปนอกปารีสสักวัน ขอแนะนำ จิแวร์นี (Giverny) ซึ่งมีบ้านของจิตรกร โคลด โมเนต์ (Claude Monet) และมีสระบัวที่เขาใช้เป็นแบบวาดภาพชุด “ดอกบัว” ที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้เห็นห้องทำงานของโมเนต์ที่ใช้สร้างสรรค์งานชิ้นเอก รวมทั้งห้องครัวและห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใสด้วย

Giverny

สระบัวที่ โคลด โมเนต์ ใช้เป็นแบบวาดภาพชุด “ดอกบัว” ที่มีชื่อเสียง

 

เรื่อง : นิศารัตน์  / ภาพ :  https://olympics.com และ Paris Je t’aime